เรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้
ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความ
เข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้วิจัย กีรตยา นิยมคุณ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ดังนี้ 3.1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) เพื่อศึกษาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน หลังการสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังการใช้รูปแบบการเรียน การสอน และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) สังกัดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 39 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่า t (t-test Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1 ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
1.1 ผลการศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตัวชี้วัด และมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และเป้าหมายในการพัฒนานักเรียน พบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทย และเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ
1.2 ผลการสัมภาษณ์ครูวิชาการ และครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเกี่ยวกับแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนและเป้าหมายในการพัฒนานักเรียน สรุปข้อมูลสอดคล้องกัน พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนควรมีลักษณะที่อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อนตั้งแต่เริ่มแรก และพัฒนาขึ้นจากแนวคิดทฤษฎีที่หลากหลาย โดยสรุปเป็นแนวคิดในการพัฒนารูปแบบการสอนที่สามารถสนองความต้องการของผู้เรียน โดยต้องมีการสอบถามความต้องการของผู้เรียนจะทำให้ทราบข้อมูลความต้องการที่แท้จริง เนื้อหาที่สอนควรเป็นเนื้อหาที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ทันสมัย กระตุ้นให้ผู้เรียนอยากรู้ อยากเรียน และผู้เรียนต้องสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในการดำเนินชีวิตประจำวัน และทักษะที่จำเป็นในการสื่อสารภาษาอังกฤษคือทักษะการอ่าน
1.3 ผลการสอบถามความต้องการของนักเรียนเกี่ยวกับความต้องการและความสนใจเกี่ยวกับเนื้อหาวิชา พบว่า ความต้องความสนใจเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่าได้รูปแบบการเรียนการสอน ประกอบด้วยกิจกรรม 5 ขั้นตอน (ICPAE MODEL) ได้แก่ 1) ขั้นที่ 1 ขั้นกล่าวนำ (Introduction : I) 2) ขั้นที่ 2 ขั้นสร้างองค์ความรู้ (Constructionism : C) 3) ขั้นที่ 3 ขั้นการกระทำอย่างถูกต้องสมบูรณ์ (Precision : P) 4) ขั้นที่ 4 ขั้นการปรับปรุงและประยุกต์ใช้ (Adaptation : A) 5) ขั้นที่ 5 ขั้นให้แบบฝึกหัดและตรวจผลงาน (Exercise and Progress : E) และเมื่อนำไปหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 84.03/82.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า
3.1 นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ยอมรับสมมติฐานข้อที่ 1
3.2 นักเรียนมีคะแนนความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม 30 คะแนน จำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 89.74 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 2
3.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า คะแนนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ยอมรับสมมติฐานการวิจัย ข้อที่ 3
4. การประเมินการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับการให้ภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 หลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอนทั้ง 4 ด้านโดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด