บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพรูปแบบการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง 2) พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปางด้วยหลัก ธรรมาภิบาล และ 3) ติดตามผลการนำรูปแบบการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปางด้วยหลักธรรมาภิบาลที่พัฒนาขึ้นไปใช้ ประชากรคือ คณะกรรมการวิทยาลัย คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 177 คน และผู้เรียน จำนวน 3,025 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 3,202 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ คณะกรรมการวิทยาลัย คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 100 คน และผู้เรียน จำนวน 400 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 500 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์เนื้อหา แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมสำเร็จรูปและสถิติที่ใช้คือ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพรูปแบบการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง เดิมอยู่ภายใต้โครงสร้างการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.03, S.D. = 0.76 ) และเมื่อพิจารณารายด้านแล้วพบว่า มีสภาพรูปแบบการบริหารจัดการจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ข้อ 4 ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายกิจการนักเรียนนักศึกษา อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.28, S.D. = 0.61 ) รองลงมาคือ ข้อ 3 ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายบริหารทรัพยากร อยู่ในระดับมาก
(x̄ = 4.13, S.D. = 0.72) ข้อ 2 ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ อยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.89, S.D. = 0.78) และน้อยที่สุด คือข้อ 1 ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายวิชาการ อยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.83, S.D. = 0.83) นอกจากนั้นผู้ทรงคุณวุฒิ มากกว่า ร้อยละ 80 ให้ข้อเสนอแนะว่า ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายวิชาการ ควรพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยได้มาตรฐาน มีแผนการเรียนรู้ สื่อการสอน การวัดประเมินผลที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการและชุมชน บริหารงานแบบมีส่วนร่วมและทำงานเป็นทีม มีการพัฒนาครูผู้สอนโดยส่งเสริมให้ครูได้พัฒนาตนเอง และจัดบรรยากาศทางวิชาการให้เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนการสอน ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ ควรมีกำหนดเป้าหมาย การพัฒนาสถานศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานตามศักยภาพของสถานศึกษา และความต้องการของชุมชน ควบคุม กำกับและติดตาม
การใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด บริหารจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศ จัดให้มีระบบ
การประกันคุณภาพภายใน และส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนสร้างและพัฒนาผลงาน สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และโครงงานวิทยาศาสตร์ ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายบริหารทรัพยากร ควรดำเนินการ
ตามระเบียบบริหารด้านการเงิน บัญชี และพัสดุให้มีความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการและเป็นปัจจุบัน บริหารงานอาคารสถานที่ของสถานศึกษา ด้านการบริหารจัดการของฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนนักศึกษา ควรกำหนดเป้าหมายและกระบวนการในการพัฒนาคุณลักษณะของผู้เรียนให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์
ของหลักสูตร และเป็นที่ยอมรับของสังคม
2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปางด้วยหลักธรรมาภิบาลในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.38, S.D. = 0.76) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านแล้ว พบว่า รูปแบบการบริหารจัดการที่พัฒนาขึ้น จากมากไปน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ ข้อ 9 การบริหารจัดการตามหลักความเสมอภาค อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.46, S.D. = 0.73) และข้อ 10 การบริหารจัดการตามหลักมุ่งเน้นฉันทามติ อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.46, S.D. = 073) เช่นเดียวกัน รองลงมาคือ ข้อ 7 การบริหารจัดการตามหลักการกระจายอำนาจ อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.45, S.D. = 0.70) และน้อยที่สุดคือ ข้อ 4 การบริหารจัดการตามหลักการรับผิดชอบ อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.44, S.D. = 0.71)
3. การติดตามผลการนำรูปแบบการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปางด้วยหลักธรรมาภิบาลที่พัฒนาขึ้นไปใช้ ในภาพรวมหลังการพัฒนา มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.62, S.D. = 0.58) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนการพัฒนา มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.38, S.D. = 0.76) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และความพึงพอใจต่อการนำรูปแบบการบริหารจัดการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปางด้วยหลักธรรมาภิบาลที่พัฒนาขึ้นไปใช้ ของ กรรมการวิทยาลัย กรรมการสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา มีความพึงพอใจในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = 0.63) และผู้เรียนมีความพึงพอใจในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = 0.67)
คำสำคัญ : รูปแบบการบริหารจัดการ, หลักธรรมาภิบาล