ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การฝึกสมาธิในตอนเช้าก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่องานวิจัย การฝึกสมาธิในตอนเช้าก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย นางวรินภร สีสัน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี

ความสำคัญและที่มา

เนื่องจากการจัดกิจกรรมการเรียนสอนของนักเรียนที่ผ่านมาในปี การศึกษา 2561 นักเรียนส่วนใหญ่จะขาดสมาธิในการเรียน ทำให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไม่ประสบความสำเร็จ นักเรียนส่วนมากจะไม่สามารถรับรู้ ข้อมูล เนื้อหาที่คุณครูนำเสนอต่อนักเรียน และชอบหยอกล้อกันภายในห้องเรียน ขาดความตั้งใจในการเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ข้าพเจ้าจึงได้คิดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการพยามทำจิตใจให้นักเรียนสงบนิ่ง ไม่คิดฟุ้งซ่านในเรื่องอื่น สนใจในเรื่องที่กำลังกระทำ ด้วยการนำกิจกรรมการฝึกสมาธิในตอนเช้า ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มาใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 3

วัตถุประสงค์

1. เพื่อฝีกให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีสมาธิในการเรียน

2.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการการฝึกสมาธิในตอนเช้า ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในปีการศึกษา 2561 กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้จัดกิจกรรมการการฝึกสมาธิในตอนเช้า ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการ

ปีการศึกษา 2562

สมมุติฐาน

การฝึกสมาธิ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพิ่มขึ้น

ประโยชน์ของการวิจัยที่คาดว่าจะได้รับ

1.นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีสมาธิในการเรียน มีความตั้งใจในการเรียน สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง

2.นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น

ขอบเขตของการวิจัย

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนบ้านเหล็ก อำเภอปรางค์กู่

จังหวัดศรีสะเกษ

ตัวแปรต้น

กิจกรรมการฝึกสมาธิ

ตัวแปรตาม

นักเรียนมี สมาธิในการเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ปีการศึกษา 2562 เพิ่มขึ้น

วิธีดำเนินการวิจัย

1. ให้นักเรียนฝึกกิจกรรมการนั่งสมาธิ ในตอนเช้าก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้วยการฝึกสมาธิเบื้องต้น และให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับการฝึกสมาธิแบบง่ายๆ และให้นักเรียนฝึกปฏิบัติตาม พร้อมทั้งนำเสนอภาพทางจอทีวี ในเรื่องการนั่งสมาธิที่ถูกต้อง โดยการสืบค้นข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ต

2. ให้นักเรียนฝึกกิจกรรมการนั่งสมาธิ โดยครูเปิดเพลง ลมหายใจเข้า – ลมหายใจออก ของแม่ชีศันสนีย์ ของเสถียรธรรมสถาน ทุกๆเช้า เป็นเวลา 5- 10 นาที และสลับด้วยการฝึกสมาธิ ด้วยตนเอง

3. ทำกิจกรรมเช่นนี้เป็นเวลา 1 เดือน จึงเริ่มทดสอบจิตใจของนักเรียน ด้วยการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนว่ามีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะใด

4. ทำกิจกรรมเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ และสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนว่ามีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะใด ในทุกๆ เดือน

5. เมื่อสิ้นภาคเรียนที่1 ทำการประเมินผลพฤติกรรมของนักเรียนของนักเรียนด้วยการใช้แบบสังเกตพฤติกรรม และประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

6. เมื่อเปิดภาคเรียนที่ 2 ฝึกกิจกรรมการนั่งสมาธิ ในข้อที่ 1- 5 ต่อไปอย่างสม่ำเสมอ และให้นักเรียนฝึกนำไปปฏิบัติที่บ้านด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ และนั่งสมาธิก่อนนอนจนกลายเป็นกิจวัตรปรำจำวัน

7. สรุปผลการดำเนินงานเมื่อสิ้นปีการศึกษา 2562

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

จากการทำกิจกรรมการฝึกสมาธิในตอนเช้าให้กับนักเรียน ทำให้นักเรียนมีจิตใจที่สงบนิ่ง ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่หยอกล้อกันภายในห้องเรียน มีความตั้งใจในการเรียน มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในการทำภาระงานมีความตั้งใจในการทำงาน สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน และ ในวิชาหลักคือ วิชาด้านคำนวณ ด้านภาษา และด้านความสามารถ มีคะแนน เพิ่มขึ้น

สรุปผล

จากการนำกิจกรรมการการฝึกสมาธิในตอนเช้า ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มาฝึกกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทำให้เกิดผลดีต่อนักเรียนดังนี้คือ

1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีสมาธิในการเรียน

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 3 ในปีการศึกษา 2562 มีคะแนนเฉลี่ย เพิ่มขึ้น

ข้อเสนอแนะ

ควรมีการฝึกการนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง และจัดกิจกรรมเช่นนี้ในชั้นประถมศึกษาอื่น ๆ ด้วย

โพสต์โดย นางวรินภร สีสัน : [24 มี.ค. 2563 เวลา 05:07 น.]
อ่าน [6952] ไอพี : 223.205.236.93
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,774 ครั้ง
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ

เปิดอ่าน 10,953 ครั้ง
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012

เปิดอ่าน 17,140 ครั้ง
คำค้นยอดนิยม กูเกิล-ยาฮู ประจำปี 2551
คำค้นยอดนิยม กูเกิล-ยาฮู ประจำปี 2551

เปิดอ่าน 11,538 ครั้ง
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ

เปิดอ่าน 20,761 ครั้ง
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565

เปิดอ่าน 106,841 ครั้ง
ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ
ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ

เปิดอ่าน 11,651 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 13,096 ครั้ง
กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์
กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์

เปิดอ่าน 10,698 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่3
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่3

เปิดอ่าน 11,150 ครั้ง
แนะวิธีสังเกต ธนบัตรปลอม
แนะวิธีสังเกต ธนบัตรปลอม

เปิดอ่าน 23,848 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ

เปิดอ่าน 11,159 ครั้ง
ปวดตึงที่คอและไหล่ อย่าคิดว่ามันเรื่องเล็ก
ปวดตึงที่คอและไหล่ อย่าคิดว่ามันเรื่องเล็ก

เปิดอ่าน 11,041 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง

เปิดอ่าน 37,370 ครั้ง
พัฒนาการทางเทคโนโลยีการศึกษา
พัฒนาการทางเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 25,962 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
เปิดอ่าน 946 ครั้ง
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เปิดอ่าน 16,878 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
เปิดอ่าน 14,234 ครั้ง
กินผักตามฤดู 12 เดือน
กินผักตามฤดู 12 เดือน
เปิดอ่าน 14,917 ครั้ง
หนีให้ไกลภัย อะฟลาท็อกซิน
หนีให้ไกลภัย อะฟลาท็อกซิน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ