ผู้วิจัย นายประจงลักษณ์ บัวกลาง
สถาบัน โรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษา
เทศบาลเมืองเมืองพลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย คือ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิผลด้านศักยภาพของครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญซึ่งเกิดจากการใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพล กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลด้านสมรรถนะของนักเรียนที่เกิดจากการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูต่อกระบวนการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพล กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอนของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพล กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ปีการศึกษา 2561 จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินตนเองของครูผู้สอนด้านศักยภาพในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย แบบประเมินสมรรถนะของนักเรียนรายบุคคลของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และแบบสอบถามความพึงพอใจของครูต่อกระบวนการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis ) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าดัชนีประสิทธิผล ( Effectiveness Index : E.I.)
ผลการศึกษาพบว่า
1) ศักยภาพของครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญของโรงเรียนเทศบาล
ศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) มีค่าเฉลี่ยก่อนการพัฒนาโดยภาพรวมอยู่ในระดับน้อย ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.44 และหลังการพัฒนาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 และเมื่อทำการคำนวณค่าดัชนีประสิทธิผลที่เกิดจากการพัฒนา พบว่า มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.78 แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ทำให้ครูมีศักยภาพในการจัดการเรียนรู้เพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 78
2) สมรรถนะของผู้เรียนที่สอดคล้องกับสมรรถนะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ที่เกิดจาก
การพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) มีค่าเฉลี่ยก่อนการพัฒนาโดยภาพรวมอยู่ในระดับน้อย ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.10 และหลังการพัฒนาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 และเมื่อทำการคำนวณค่าดัชนีประสิทธิผลที่เกิดจากการพัฒนา พบว่า มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.63 แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ทำนักเรียนมีสมรรถนะที่สอดคล้องกับสมรรถนะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 เพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 63
3) ความพึงพอใจของครูต่อกระบวนการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ของโรงเรียนเทศบาลศรีเมืองพลประชานุเคราะห์ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองเมืองพล กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมเท่ากับ 4.42 เมื่อพิจารณาเป็นรายขั้นตอน พบว่า ขั้นตอนที่ครูผู้สอนมีความพึงพอใจสูงสุด คือ ความพึงพอใจขั้นตอนการร่วมคิดแก้ปัญหาหรือพัฒนามี รองลงมา คือ การนำแผนหรือแนวทางที่ร่วมกันคิดค้นสู่การปฏิบัติจริง , การกำหนดบทบาทของบุคคลในการทำ PLC, และการเข้าร่วมกลุ่ม ตามลำดับ ส่วนขั้นตอนที่มีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจต่ำสุด คือ การประเมินผลและสรุปผลการนำแผนไปใช้
คำสำคัญ : การพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ, กระบวนการนิเทศแบบชุมชน
แห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC), ศักยภาพครู
และ สมรรถนะของผู้เรียน