ผู้วิจัย นางสาววีณา เพชรจำนงค์
ปีที่ทำวิจัย 2562
บทคัดย่อ
การทำการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะ
การอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 46 คน โดยผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม ได้นักเรียน 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่
1. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาต่างประเทศ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง .60-1.00 ได้ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .37 - .77 มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .25 -.88 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ เท่ากับ .89
2. ชุดฝึกทักษะการอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ชุด มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ในการทดลองใช้ครั้งที่ 1 ประสิทธิภาพ (E1/E2) ของชุดฝึกทักษะมีค่า 59.67/56.67 ในการทดลองใช้ครั้งที่ 2 ประสิทธิภาพ (E1/E2) ของชุดฝึกทักษะมีค่า 71.40/70.50 ในการทดลองใช้ครั้งที่ 3 ประสิทธิภาพ (E1/E2) ของชุดฝึกทักษะมีค่า 80.93/80.50
3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง .60-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .25 .75 และค่าความเชื่อมั่น .90
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีความสอดคล้อง ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น การหาประสิทธิภาพ และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะการอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 83.35/83.04 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่าน เรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมและรายด้านอยู่ใน
ระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านเนื้อหา
ด้านการวัดและประเมินผล ตามลำดับ