ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ร่วมกับวิะีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based Leaning) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที

ชื่อเรื่อง : การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ร่วมกับวิธีการสอน

โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based.Learning).ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4 ที่มี

ปัญหาทางด้านการอ่านและการเขียน

ชื่อผู้วิจัย : นางสาวภคมน ขุนรักษ์

ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัญหาด้านการอ่านและ การเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2).เพื่อออกแบบและพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและ การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ร่วมกับวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน.(Brain-based.Learning).ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4.ที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน 3).เพื่อทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ร่วมกับวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน.(Brain-based.Learning).ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4.ที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน.4).เพื่อประเมินผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ร่วมกับวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based.Learning).ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4.ที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4.โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ สังกัดเทศบาลเมืองพัทลุง ภาคเรียนที่.2.ปีการศึกษา.2560.จำนวน.32.คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive.Sampling).คือนักเรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน โดยใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลความสามารถในการอ่าน และความสามารถในการเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของสถาบันภาษาไทย กระทรวงศึกษาธิการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน.8.เรื่อง แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based.Learning).เรื่อง มาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่.4.จำนวน 42.แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน.40.ข้อ.และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน.10.ข้อ.สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล.ได้แก่.ค่าเฉลี่ย.(Mean).ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน.(Standard.Deviation) ร้อยละ.(Percentage) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยโดยใช้ t-test

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4.โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ ที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน มีจำนวน”32”คน.คิดเป็นร้อยละ.10”ของนักเรียนทั้งหมด ผลจากการทดสอบ วัดความสามารถในการอ่านออกเสียง นักเรียนอยู่ในระดับดีมาก.จำนวน.236.คน.คิดเป็นร้อยละ.73.75.ระดับดี จำนวน.52.คน คิดเป็นร้อยละ.16.25.ระดับพอใช้ จำนวน.13.คน คิดเป็นร้อยละ.4.06 .ระดับปรับปรุง.จำนวน 19.คน คิดเป็นร้อยละ.5.94.ความสามารถในการอ่านรู้เรื่อง นักเรียนอยู่ในระดับดีมาก จำนวน.220.คน คิดเป็นร้อยละ.68.75 .ระดับดี จำนวน.68.คน คิดเป็นร้อยละ.21.25.ระดับพอใช้ จำนวน.7.คน คิดเป็นร้อยละ.2.19.ระดับปรับปรุง.จำนวน.25.คน คิดเป็นร้อยละ”7.81.และความสามารถในการเขียน นักเรียนอยู่ในระดับดีมาก จำนวน.190.คน คิดเป็นร้อยละ.59.37.ระดับดีจำนวน.98.คน คิดเป็นร้อยละ.30.63.ระดับพอใช้ จำนวน.3.คน คิดเป็นร้อยละ.0.94.ระดับปรับปรุง.จำนวน.29.คน คิดเป็นร้อยละ.9.06.และนักเรียนต้องการให้มีการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนที่มีกิจกรรมหลากหลาย รูปเล่มมีภาพประกอบ มีสีสันสวยงาม และมีการฝึกจากง่ายไปหายาก

2. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ร่วมกับวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน.(Brain-based.Learning).ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4 .ที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน มีประสิทธิภาพเท่ากับ.88.90/87.73

3..หลังทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ร่วมกับวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน.(Brain-based Learning) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4.ที่มีปัญหาด้าน การอ่านการเขียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01

4. ผลการประเมินการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่.4.ที่มีปัญหาด้านการอ่านการเขียน ร่วมกับวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน.(Brain-based.Learning)

4.1.ความสามารถในการอ่านออกเสียง นักเรียนอยู่ในระดับดีมาก.จำนวน.29.คน คิดเป็นร้อยละ.90.63.ระดับดี จำนวน.3.คน คิดเป็นร้อยละ.9.37.ความสามารถในการอ่านรู้เรื่องนักเรียนอยู่ในระดับดีมาก จำนวน.27.คน คิดเป็นร้อยละ.84.38 .ระดับดี จำนวน.5.คน คิดเป็นร้อยละ”15.62 และความสามารถในการเขียน นักเรียนอยู่ในระดับดีมาก จำนวน.19 คน.คิดเป็นร้อยละ.59.38 ระดับดี จำนวน.13.คน คิดเป็นร้อยละ.40.62 ง

4.2.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียนต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่.4.ร่วมกับวิธีการสอนโดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based.Learning).โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ภคมน ขุนรักษ์ : [14 มี.ค. 2563 เวลา 18:20 น.]
อ่าน [66133] ไอพี : 171.7.219.16
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,496 ครั้ง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง

เปิดอ่าน 16,118 ครั้ง
10 กิจที่ต้องทำ วันตรุษจีน
10 กิจที่ต้องทำ วันตรุษจีน

เปิดอ่าน 28,081 ครั้ง
"ฟักทอง"ป้องเบาหวาน-บำรุงหัวใจ
"ฟักทอง"ป้องเบาหวาน-บำรุงหัวใจ

เปิดอ่าน 13,274 ครั้ง
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด

เปิดอ่าน 15,661 ครั้ง
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!

เปิดอ่าน 27,819 ครั้ง
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล

เปิดอ่าน 6,941 ครั้ง
อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมแห่งโลกอนาคต
อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมแห่งโลกอนาคต

เปิดอ่าน 12,035 ครั้ง
นอร์เวย์มอบรางวัลไทย ปท.น่าเที่ยวที่สุด6ปีซ้อน
นอร์เวย์มอบรางวัลไทย ปท.น่าเที่ยวที่สุด6ปีซ้อน

เปิดอ่าน 47,474 ครั้ง
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย

เปิดอ่าน 17,556 ครั้ง
ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย
ช้อน-ส้อม จุ่มน้ำร้อนหม้อหุงข้าว ฆ่าเชื้อโรคไม่ตาย

เปิดอ่าน 12,207 ครั้ง
การศึกษาในกะลา
การศึกษาในกะลา

เปิดอ่าน 12,822 ครั้ง
ดัชนีมวลกาย หาค่า BMI เช็กกันหน่อยไหมคุณอ้วนหรือยัง ?
ดัชนีมวลกาย หาค่า BMI เช็กกันหน่อยไหมคุณอ้วนหรือยัง ?

เปิดอ่าน 9,808 ครั้ง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง

เปิดอ่าน 1,187 ครั้ง
5 ทำเลคอนโดในกรุงเทพมหานครที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2025
5 ทำเลคอนโดในกรุงเทพมหานครที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2025

เปิดอ่าน 25,389 ครั้ง
เพลง "วันแม่"
เพลง "วันแม่"

เปิดอ่าน 362,255 ครั้ง
สูตรการหาพื้นที่และปริมาตรต่างๆ
สูตรการหาพื้นที่และปริมาตรต่างๆ
เปิดอ่าน 637 ครั้ง
บริการรับทำเว็บไซต์ติดหน้าแรก Google ดีต่อธุรกิจอย่างไร
บริการรับทำเว็บไซต์ติดหน้าแรก Google ดีต่อธุรกิจอย่างไร
เปิดอ่าน 13,755 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
เปิดอ่าน 57,258 ครั้ง
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
เปิดอ่าน 15,808 ครั้ง
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ