หัวข้อวิจัย การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เพื่อหาผลสัมฤทธิ์ ทางเรียนของนักเรียนระดับชั้น ปวช.2 สาขาวิชาช่างกลโรงงาน วิชา กลศาสตร์วเครื่องมือกล วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม
ผู้วิจัย นางสาวสิรินาถ อินโอภาส
แผนก ช่างกลโรงงาน
วิชา กลศาสตร์เครื่องมือกล
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
จุดประสงค์การวิจัย
1. การหาผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของนักเรียนระดับชั้นปวช. สาขาเครื่องมือกล วิชากลศาสตร์เครื่องมือกล โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือประเภท Student Teams-Achievement Division (STAD)
วิธีการดำเนินการวิจัย
1. ขั้นเตรียมเนื้อหา ประกอบด้วยการจัดเตรียมเนื้อหาสาระ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ตรงตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของหลักสูตร จำนวน 2 แผน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป (Instructional Module) เป็นเครื่องมือ โดยมีเนื้อหาสาระเพื่อให้ผู้เรียนศึกษา 2 เรื่อง คือ1.โมเมนต์ 2. สมดุลของแรง ซึ่งใช้เวลาดำเนินงาน เรื่องละ 4 ชั่วโมง
2. ขั้นจัดทีมแยกกลุ่มผู้เรียน โดย แบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยในกลุ่มประกอบด้วย นักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อนซึ่งมาจากการสอบประเมินผล
3. ขั้นดำเนินการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค STAD จัดการทดสอบก่อนเรียน เพื่อทดสอบความพร้อมและประเมินพื้นฐานของผู้เรียนแต่ละคน
3.1 ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เทคนิค STAD ดำเนินการทั้งสิ้น 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป (Instructional Module) เป็นเครื่องมือ
3.2 ผู้เรียนจับกลุ่มการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD
3.3 ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนและแบบประเมินการสอนโดยใช้เทคนิค STAD
3.4 เมื่อทดสอบผู้เรียนนำผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์
4. วิธีวิเคราะห์ข้อมูล สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย อาศัยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for Windows
4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) เป็นการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของค่าสถิติเบื้องต้นต่าง ๆ
4.2 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โดยการเปรียบเทียบผลการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยอาศัยสถิติทดสอบแบบการวิเคราะห์ T-test
ผลการวิจัย
การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ด้วยวิธีเทคนิค Student Teams-Achievement Division (STAD) เมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยระหว่างคะแนนผลการทดสอบหลังเรียนกับคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน นักเรียนมีผลคะแนนหลังเรียนสูงกว่าที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 หรือ 95% ซึ่งตรงกับสมมติฐาน