บทคัดย่อ
การรายงานนี้เป็นการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่๒ โรงเรียนมีวัตถุประสงค์ ๔ ประการ คือ ๑) เพื่อสร้างและพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๒) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของนวัตกรรม กับการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๓) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ก่อนและหลังการใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
วิธีการดำเนินการศึกษามีดังนี้
ขั้นตอนที่ ๑ สร้างและจัดการเรียนรู้แบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่๒
ขั้นตอนที่ ๒ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของนวัตกรรม กับการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
ขั้นตอนที่ ๓ เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ก่อนและหลังการใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่๒
ขั้นตอนที่ ๔ เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้และพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ โรงเรียนเทศบาล ๓ (โศภนพิทยาคุณานุสรณ์) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน ๑ ห้องเรียน ภาคเรียนที๑ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๓๑ คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ๑) กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๓ เล่ม ๒) คู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยใช้คู่กับกิจกรรมเน้นภาระงาน เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่๒ จำนวน ๒๑ แผนการสอน ๓) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมเน้นภาระงาน การจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ และ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อ การจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
สรุปผลการศึกษา
๑. ผลการใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
๒. ผลศึกษาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๓ เล่ม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ๘๐/๘๐ คือ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๐.๕๐/๘๖.๗๖
๓. ผลการเปรียบเทียบทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำ ก่อนเรียนและหลังการใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๓ เล่ม พบว่านักเรียนมีทักษะการอ่านการเขียนสะกดคำ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๖) เมื่อจำแนกรายด้านความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ ด้านลักษณะรูปเล่ม ( = ๔.๕๔) ด้านภาพประกอบ ( = ๔.๕๙) ด้านเนื้อเรื่อง ( = ๔.๕๕) ด้านการใช้ภาษา ( = ๔.๕๒) ด้านคุณค่าและประโยชน์ที่จะได้รับ ( = ๔.๖๙) ส่วนความพึงพอใจของนักเรียนต่อเอกสารประกอบการเรียน ที่มีระดับความพึงพอใจเหมาะสมอยู่ในระดับมาก คือ ด้านการพิมพ์ ( = ๔.๔๘)