บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 จำนวน 33 คน ของโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ (ท.1 ) เทศบาลเมืองท่าบ่อ หนองคาย
จังหวัดหนองคาย ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าสถิติ t - test dependent Samples
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 86.25/84.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ โดยค่าคะแนน กิจกรรมแบบฝึกและแบบทดสอบระหว่างเรียน คิดเป็นร้อยละ 86.25 และคะแนนทดสอบหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 84.27
2. ค่าความแตกต่างระหว่างคะแนนจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน ผลการเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยผลการเรียนรู้ของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน มีคะแนนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/5 มีค่าเฉลี่ย ความพึงพอใจต่อแบบฝึกการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน เท่ากับ 4.39 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.12 หมายถึง นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน อยู่ในระดับมาก
ผลการศึกษาครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพสูงจึงส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้มากขึ้น คือ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้เรื่องการอ่านและเขียนภาษาไทยสูงขึ้น จึงถือได้ว่าแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานสู่การเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้น เป็นสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสม สนองนโยบายการปฏิรูปการศึกษาเป็นอย่างดี จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง