การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนเรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning)
ผู้ศึกษา นางสาวสุภาวดี สิงห์สมบูรณ์
สังกัด โรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 3 สังกัดเทศบาลนครแหลมฉบัง
ปีที่ศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/ 80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัด การเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/9 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 จำนวน 42 คน ได้มาโดยวิธีการการสุ่มแบบกลุ่ม (Custer Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) เอกสารประกอบ การเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) จำนวน 9 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) ตั้งแต่ 0.47 - 0.76 มีค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.50 - 0.73 และแบบทดสอบมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบ การเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 0.80 ขึ้นไป และแบบทดสอบมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.876 ผู้ศึกษาได้ดำเนินการสอนด้วยตนเอง โดยใช้เวลาทดลองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง รวม 18 ชั่วโมง (ไม่นับรวมเวลาที่ใช้ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (x-) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาปรากฏว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) มีประสิทธิภาพ 82.67/ 84.23 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เท่ากับ 0.5598 หรือคิดเป็นร้อยละ 55.98 นั่นหมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น 0.5598 หรือคิดเป็นร้อยละ 55.98
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2013 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.60, S.D = 0.55)