ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

กิจกรรมพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อันส่งผลต่อ ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษ

ชื่อผู้วิจัย นางสาววารุณี ทิพยะ

สอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา อ61101 ปีการศึกษา 2561

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กำหนดให้มีการวัดผลการเรียนรู้ของผู้เรียนไว้ 3 ระดับ คือ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา และระดับชาติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาเกี่ยวกับคุณภาพของผู้เรียน ซึ่งในการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนเป็นหน้าที่ของครูผู้สอนที่จะต้องหาคำตอบว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทั้งด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการ คุณธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ เนื่องมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมากน้อยเพียงใด ส่วนการประเมินผลระดับสถานศึกษาจะทำการประเมินเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกคนที่เรียนในชั้นปีสุดท้ายของแต่ละช่วงชั้น คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET (Ordinary National Educational Test) เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้และความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีวัตถุประสงค์ ได้แก่ 1) เพื่อทดสอบความรู้และความคิดของนักเรียน 2) เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการจบการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 3)เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้ในการปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียน 4) เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชาติ และ 5) เพื่อนำผลการทดสอบไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น โดยการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET นั้นทำการทดสอบจำนวน 4 กลุ่มสาระประกอบด้วย 1) ภาษาไทย 2) คณิตศาสตร์ 3) วิทยาศาสตร์ และ 4) ภาษาอังกฤษ

ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศ เรื่อง การใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2555 ให้ใช้ผลการเรียนของผู้เรียนที่ประเมินโดยสถานศึกษาและผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ในสัดส่วน 80 : 20 และตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การปรับสัดส่วนการใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ให้ใช้ผลการเรียนของผู้เรียนที่ประเมินโดยสถานศึกษาและผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ในสัดส่วน 70 : 30 ในปีการศึกษา 2557 และให้ใช้สัดส่วน 50 : 50 ในปีการศึกษา 2558 เป็นต้นไป รวมทั้งประกาศกระทรวงศึกษาธิการล่าสุด ประกาศ ณ วันที่ 29 มกราคม 2559 เรื่องการปรับสัดส่วนการใช้ผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) เป็น 70 : 30

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) มีความสำคัญและความจำเป็นอย่างยิ่งในการวัดและประเมินคุณภาพผู้เรียนและสถานศึกษา อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนามาตรฐานและคุณภาพของผู้เรียนตลอดจนนำไปสู่ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา

โรงเรียนวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ได้กำหนดค่าเป้าหมายในการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ในปีการศึกษา 2561 ได้แก่ 1) ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษบรรลุตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และ 2) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 3

จากสถิติผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนโรงเรียนวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ในปีการศึกษา 2552 -2558 มีค่าเฉลี่ยคะแนนอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ตามแผนภูมิด้านล่างนี้

แผนภูมิที่ 1 เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2552 – 2560

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อให้ผู้เรียนมีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ในปีการศึกษา 2561 สูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2552 - 2559

วิธีดำเนินการวิจัย

1. ประชากร

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 การศึกษา 2561 โรงเรียนวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง จำนวน 68 คน

2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยนวัตกรรม

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบและแบบฝึก ดังนี้

1. แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน

2. แบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ ทักษะการฟัง

3. แบบฝึกชุดที่ 2 ได้แก่ ทักษะการพูด

4. แบบฝึกชุดที่ 3 ได้แก่ ทักษะการอ่าน

5. แบบฝึกชุดที่ 4 ได้แก่ ทักษะการเขียน

3. การเก็บรวบรวมข้อมูล

ผู้วิจัยได้ดำเนินตามขั้นตอนดังนี้

ที่ รายการ วันที่ หมายเหตุ

1 นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ชุด O-Net ปีการศึกษา 2560 29 พ.ย. 2561

การพัฒนาทักษะการฟัง

2 นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดทักษะการฟัง 3,6 ธ.ค. 2561

3 จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง 10 – 14 ธ.ค. 2561

4 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ชุดทักษะการฟัง 17 ธ.ค. 2561

การพัฒนาทักษะการพูด

5 นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดทักษะการพูด 19 ธ.ค. 2561

6 จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการพูด 20 – 21 ธ.ค. 2561

24 – 28 ธ.ค. 2561

7 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ชุดทักษะการพูด 2 ม.ค. 2561

การพัฒนาทักษะการอ่าน

8 นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดทักษะการอ่าน 3 ม.ค. 2561

9 จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน 7 – 11 ม.ค. 2561

14 – 15 ม.ค. 2561

10 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ชุดทักษะการอ่าน 16 ม.ค. 2561

การพัฒนาทักษะการเขียน

11 นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดทักษะการเขียน 17 ม.ค. 2561

13 จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการเขียน 21 – 23, 25 ม.ค. 2561

28 – 30 ม.ค. 2561

13 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ชุดทักษะการเขียน 31 ม.ค. 2561

14 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ชุด O-Net ปีการศึกษา 2560 1 ก.พ. 2561

4. การวิเคราะห์ข้อมูล / สถิติที่ใช้ในการวิจัย

4.1 ใช้สถิติค่าเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบหลักเรียน 4 ทักษะ ตามเกณฑ์ที่กำหนด

4.2 การเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการพัฒนา 4 ทักษะ

ผลการวิจัย

การประเมินผลทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนของนักเรียนก่อนและหลังการพัฒนา จากเกณฑ์ที่กำหนดของแต่ละชุด

จากตารางที่ 1 จะเห็นได้ว่าผลการประเมินผลทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนของนักเรียนหลังการพัฒนาเพิ่มขึ้นก่อนการพัฒนาทุกทักษะ โดยมีค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้ดังนี้ ทักษะการอ่าน มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.24 รวม 4 ทักษะ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.32 ทักษะการเขียน มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.65 ทักษะการฟัง มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.82 และทักษะการพูด มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.32

อภิปรายผลการวิจัย

จากการวิจัยในครั้งนี้ พบว่า หลังจากนักเรียนได้พัฒนาทักษะภาษอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ นักเรียนมีความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน มากยิ่งขึ้น โดยผลการประเมินผลทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนของนักเรียนหลังการพัฒนาเพิ่มขึ้นก่อนการพัฒนาทุกทักษะ

ทั้งนี้ เมื่อนำผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแล้ว ปีการศึกษา 2561 มาเปรียบเทียบกับผีการศึกษา 2552 – 2560 ปรากฎผล ดังนี้

โดยผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าทุกปีการศึกษา (2552 – 2560) ทั้งในระดับโรงเรียนและระดับชาติ ดังตารางที่ 2

ตารางที่ 2 เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นของผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2552 – 2560 และ ปีการศึกษา 2561

ปีการศึกษา 2561 ระดับโรงเรียน ระดับประเทศ

ปีการศึกษา 2552

- 2560 ค่าเฉลี่ย เทียบกับปี 2561 ปีการศึกษา 2552 - 2560 ค่าเฉลี่ย เทียบกับปี 2561

47.38 2552 26.05 +21.33 2552 31.75 +15.63

2553 14.96 +32.42 2553 20.99 +26.39

2554 25.36 +22.02 2554 38.37 +9.01

2555 29.15 +18.23 2555 36.99 +10.39

2556 28.35 +19.03 2556 33.82 +13.56

2557 31.78 +15.6 2557 36.02 +11.36

2558 34.69 +12.69 2558 40.31 +7.07

2559 29.45 +17.93 2559 34.59 +12.79

2560 36.63 +10.75 2560 36.34 +11.04

2561 - - 2561 39.24 +8.14

ข้อเสนอแนะ

ควรมีการศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนโดยใช้แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์

การเผยแพร่/ การได้รับการยอมรับ/ รางวัลที่ได้รับ

ผู้วิจัยได้เผยแพร่ผลงานให้แก่ครูกลุ่มสาระภาษาอังกฤษและกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นนำไปปรับใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ทั้งนี้ได้นำเสนอหลักการพัฒนาในวิจัยเล่มนี้แก่คณะครูและผู้บริหารในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562

โพสต์โดย Puppy : [29 ก.พ. 2563 เวลา 16:03 น.]
อ่าน [5060] ไอพี : 125.27.10.117
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,255 ครั้ง
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 19,178 ครั้ง
มังคุดคัด
มังคุดคัด

เปิดอ่าน 10,754 ครั้ง
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม

เปิดอ่าน 14,742 ครั้ง
คลิปฮ็อต "บัวขาว" ไล่ถลุง "ลี ซุง ฮุน" นักมวยโสมยับ แห่ชม 1.5 แสนวิวแล้ว
คลิปฮ็อต "บัวขาว" ไล่ถลุง "ลี ซุง ฮุน" นักมวยโสมยับ แห่ชม 1.5 แสนวิวแล้ว

เปิดอ่าน 12,998 ครั้ง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง

เปิดอ่าน 46,662 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 19,239 ครั้ง
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 917 ครั้ง
อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง
อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง

เปิดอ่าน 70,999 ครั้ง
ลูกชิดกับลูกจาก มาจากไหน
ลูกชิดกับลูกจาก มาจากไหน

เปิดอ่าน 16,433 ครั้ง
สื่อดิจิทัล "Learning Object" ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
สื่อดิจิทัล "Learning Object" ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว

เปิดอ่าน 13,742 ครั้ง
มั่งคั่งอย่างไร ... ไม่รู้จบ
มั่งคั่งอย่างไร ... ไม่รู้จบ

เปิดอ่าน 19,689 ครั้ง
ไขปริศนา ทำไม "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ชอบใส่เสื้อ"เหมือนกัน"ทุกวัน
ไขปริศนา ทำไม "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ชอบใส่เสื้อ"เหมือนกัน"ทุกวัน

เปิดอ่าน 15,280 ครั้ง
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม

เปิดอ่าน 9,804 ครั้ง
รับชม คุณครูฮ้องเพลงคำเมือง "ภูมิแพ้โปเกม่อน" ให้กำลังใจครูที่ปวดหัวกับนักเรียนที่มัวเล่นเกมล่าโปเกม่อน
รับชม คุณครูฮ้องเพลงคำเมือง "ภูมิแพ้โปเกม่อน" ให้กำลังใจครูที่ปวดหัวกับนักเรียนที่มัวเล่นเกมล่าโปเกม่อน

เปิดอ่าน 22,262 ครั้ง
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ

เปิดอ่าน 3,047 ครั้ง
สั่งสินค้าจากจีนไม่เป็น PCS Cargo ช่วยคุณเรื่องบริการนำเข้าสินค้าจากจีน
สั่งสินค้าจากจีนไม่เป็น PCS Cargo ช่วยคุณเรื่องบริการนำเข้าสินค้าจากจีน
เปิดอ่าน 41,278 ครั้ง
แนะครูกระตุ้นเด็กขี้สงสัย
แนะครูกระตุ้นเด็กขี้สงสัย
เปิดอ่าน 28,430 ครั้ง
วิธีเก็บมะนาวให้สดนาน
วิธีเก็บมะนาวให้สดนาน
เปิดอ่าน 21,399 ครั้ง
รวมคำอวยพรวันตรุษจีน พร้อมคำแปล
รวมคำอวยพรวันตรุษจีน พร้อมคำแปล
เปิดอ่าน 38,541 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง! การประชุมทางไกล ระบบติดตามและประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
รับชมย้อนหลัง! การประชุมทางไกล ระบบติดตามและประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ