รายงานการศึกษาในครั้งนี้ผู้รายงานมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน
ชุด งานประดิษฐ์ในท้องถิ่น รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเอกสารประกอบการเรียน ชุด งานประดิษฐ์ในท้องถิ่น
รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะก่อนและหลังการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะ จำนวน 22 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย
1. แบบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน เรื่อง การประดิษฐ์ในท้องถิ่น (Pre-test) 2. แผนการจัดการเรียนรู้
เรื่อง การประดิษฐ์ในท้องถิ่น รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 21 แผน
21 ชั่วโมง 3. เอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะ จำนวน 6 เล่ม 4. แบบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง การประดิษฐ์ในท้องถิ่น
(Post-test)
การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีหาค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) หาประสิทธิภาพเครื่องมือ IOC และเปรียบเทียบความแตกต่างด้วยค่า ที (T-test) แบบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังได้รับการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์
ในท้องถิ่นไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะ รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 40 ข้อ 40 คะแนน พบว่าได้ผลดังนี้
1. การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะ รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีค่าเท่ากับ 87.11/90.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 มีค่าพัฒนา 11.54
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังทดลองใช้เอกสารประกอบการเรียน
ชุด การประดิษฐ์ในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะ รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยใช้สถิติ t-test Dependent
โดยหลังทดลองมีคะแนนสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
สรุปได้ว่า การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุด การประดิษฐ์ในท้องถิ่น รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านปอเนาะ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับผู้เรียน สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดียิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าคะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05