การพัฒนาคู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครู ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา
โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว)
นาค โพลาลัย
Mr.Nak Polalai
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาทัศนคติของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและภาคีเครือข่ายต่อการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุข สู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของครูต่อการปฏิบัติงานจากการใช้คู่มือการบริหาร เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุข สู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษา สีขาว) ก่อน-หลังการใช้คู่มือ เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนต่อผลลัพธ์และความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อการพัฒนาคู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว)
ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน ภาคีเครือข่าย จำนวน 9 คน ครู จำนวน 15 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 จำนวน 33 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 (ตัวแทนภาคชุมชน) จำนวน 33 คน โรงเรียน บ้านเขวาตะคลอง ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 โดยวิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง รวมประชากร 99 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) แบบสอบถามทัศนคติที่มีต่อคู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) 2) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูต่อการปฏิบัติจากการใช้คู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อผลลัพธ์และความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อคู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) สถิติที่ใช้ในวิจัย การหาความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม โดยวิธีหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) หาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่า(Alpha Coefficient) ตามวิธีครอนบาค (Cronbach) สถิติค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และการทดสอบค่าที (T-test dependent) การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างหนึ่งกลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการประเมินทัศนคติของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและภาคีเครือข่ายต่อการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) พบว่า ทัศนคติและการรับรู้ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและภาคีเครือข่ายต่อการพัฒนาคู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.75 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.35 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีทัศนคติและการรับรู้อยู่ในระดับมากที่สุด เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 1
2. ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของครูต่อการปฏิบัติงานจากการใช้คู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการ แบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ก่อนใช้คู่มือเท่ากับ 4.66 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.37 ค่าเฉลี่ย หลังใช้คู่มือเท่ากับ 5.00 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.00 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อเปรียบเทียบผลต่างระหว่างคะแนนก่อนและหลังการใช้คู่มือ โดยใช้ t- test พบว่า หลังจากครูได้ใช้คู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) เกิดความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานสูงกว่าก่อนการใช้คู่มืออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นั่นแสดงว่า คู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการ แบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลองปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) เป็นเครื่องมือที่ทำให้ครูเกิดความพึงพอใจและมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานพร้อมขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุข ได้อย่างแท้จริง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในข้อ 2
3. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อผลลัพธ์และความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.86 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.23 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 3
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อคู่มือการบริหารเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพัฒนาสมรรถนะครูในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขสู่ความสำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านเขวาตะคลอง ปีการศึกษา 2560 (ภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาว) พบว่า ผู้ปกครองมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.85 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.28 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 4