ชื่อเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ เรื่อง การแปรรูปผลไม้ในท้องถิ่น
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วิชางานบ้าน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยีโดยใช้การสอนแบบโครงงาน
ผู้วิจัย นางฐิตาภรณ์. มูลนานัด ตำแหน่ง ครู โรงเรียนนาสีนวนพิทยาสรรค์
สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครนครราชสีมา
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแปรรูปผลไม้ในท้องถิ่น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วิชางานบ้าน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานและเทคโนโลยี โดยใช้การสอนแบบโครงงานเทียบกับเกณฑ์เป้าหมายของโรงเรียนที่กำหนดไว้ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็มและมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การแปรรูปผลไม้ในท้องถิ่น ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 วิชางานบ้าน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานและเทคโนโลยี โดยใช้การสอนแบบโครงงาน
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบไม่เข้าขั้นทดลอง (Pre-Experimental Research) รูปแบบการวิจัยเป็นแบบ One shot Case Study กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 3 (ยมราชสามัคคี) 9ตำบลในเมือง อำเภอเมือง สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครนครราชสีมาที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ราย เรื่อง การแปรรูปผลไม้ในท้องถิ่น วิชา งานบ้าน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยใช้การสอนแบบโครงงาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 10 แผน และ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแปรรูปผลไม้ในท้องถิ่น วิชา งานบ้าน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นข้อสอบชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.53 - 0.80 และมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 - 0.75 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้
เรื่อง การแปรรูปผลไม้ในท้องถิ่นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วิชางานบ้าน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยใช้การสอนแบบโครงงาน เป็นแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale)
มี 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 80 ขึ้นไปจำนวน
17 คน คิดเป็นร้อยละ 82 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดการรู้โดยใช้การสอนแบบโครงงานโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด