|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โดยใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนเต็ม ให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมดมีคะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็มขึ้นไป
กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนดงมูลวิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่องจำนวนเต็ม จำนวน 11 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสังเกตการสอนของผู้ช่วยวิจัยต่อกิจกรรมการเรียนการสอน แบบสัมภาษณ์นักเรียน แบบทดสอบท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติ 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นวางแผน ขั้นปฏิบัติการ ขั้นสังเกตการณ์ และขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปเป็นความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โดยใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นขั้นเตรียมความพร้อมของนักเรียนโดยครูผู้ สอนทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงสู่เนื้อหาใหม่ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย และแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนทราบเป้าหมายในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ 2) ขั้นสอน โดยจัดสถานการณ์ปัญหาให้นักเรียนได้ไตร่ตรองปัญหาเป็นรายบุคคล การแก้ปัญหาในระดับกลุ่มย่อยเพื่อให้เกิดความขัดแย้งทางปัญญา และการนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อทั้งชั้น ในขั้นนี้นักเรียนมีความมั่นใจในวิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ครูจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำ เมื่อนักเรียนมีการสนทนาโต้แย้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ด้วยเหตุผลอย่างอิสระ ทำให้นักเรียนได้เปรียบเทียบความคิดของตนเองกับความคิดผู้อื่น ได้เรียนรู้วิธีคิดอย่างหลากหลายและมีมุมมองที่กว้างและลึกขึ้น 3) ขั้นสรุป เป็นขั้นสร้างโครงสร้างทางปัญญา นักเรียนส่วนใหญ่สามารถสรุปความคิด หลักการและมโนคติของเนื้อหาสาระการเรียนรู้ด้วยตนเองและสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาต่างๆได้ และ 4) ขั้นฝึกทักษะ เป็นการตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนจากการทำแบบฝึกทักษะในใบงาน และแบบทดสอบท้ายแผนการเรียนรู้ ซึ่งเน้นให้นักเรียนฝึกทักษะในการแก้ปัญหาและนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ ผลปรากฏว่าผลการประเมินของนักเรียนในขั้นนี้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง จำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนได้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย 23.72 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 79.07 และมีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ 23 คน คิดเป็นร้อยละ 92.00 ของนักเรียนทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
|
โพสต์โดย นางสาววรรณิษา กสิผล : [19 ก.พ. 2563 เวลา 08:46 น.] อ่าน [5092] ไอพี : 122.154.130.44
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 25,681 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 50,891 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,878 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,639 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,496 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,627 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,107 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,602 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,860 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,445 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,167 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,027 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,914 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 191,234 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,418 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 18,147 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,865 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,178 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,837 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,736 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|