ชื่อเรื่อง การวิจัยและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนงานตัดเย็บ โดยใช้ชุดฝึกปฏิบัติทักษะ
การตัดเย็บ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนแพร่ปัญญานุกูล จังหวัดแพร่
ผู้วิจัย นางสุมล ศรีใจ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย (1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียน
การสอนงานตัดเย็บ โดยใช้ชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแพร่ปัญญานุกูล จังหวัดแพร่ (2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ ที่มีประสิทธิภาพ 75/75 (3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนงานตัดเย็บ โดยใช้ชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแพร่ปัญญานุกูล จังหวัดแพร่ โดยมีกลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ระดับเรียนได้ มีระดับสติปัญญาระหว่าง 61 - 67 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนรายวิชาทักษะอาชีพงานตัดเย็บ ปีการศึกษา 2561 จำนวน 5 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง แบบวิจัย
ผู้วิจัยใช้แบบวิจัยกลุ่มเดียววัดก่อนเรียนและหลังเรียน ( One-Group Pretest-Posttest Design) การจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลดำเนินการโดยการสัมภาษณ์ การรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร การประเมินความรู้ ทักษะการปฏิบัติและพฤติกรรมนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ใน
การวิจัยครั้งนี้คือ แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบประเมินคุณภาพรูปแบบการเรียนการสอนงานตัดเย็บ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ ชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ แบบทดสอบวัดความรู้ แบบประเมินการปฏิบัติงาน แบบประเมินชิ้นงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และแบบสังเกตพฤติกรรมในการปฏิบัติงาน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยนำข้อมูลจากการสัมภาษณ์
มาสร้างข้อสรุปอุปนัย และนำคะแนนที่ได้จากเครื่องมือนำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย(¯X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) ค่าดัชนีความสอดคล้อง(IOC) ค่าประสิทธิภาพชุดกิจกรรม (E1/E2 ) ค่าร้อยละ และค่าร้อยละพัฒนาการ
ผลการวิจัยพบว่า
รูปแบบการเรียนการสอนงานตัดเย็บ ที่ได้จากผลการสัมภาษณ์และการสนทนากลุ่มได้รูปแบบการสอนที่มีองค์ประกอบ 5 ส่วน คือ 1) หลักการ 2) จุดมุ่งหมาย 3) เนื้อหา
4) กิจกรรมการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน (4.1) ขั้นการสาธิต (4.2) ขั้นการเลียนแบบ
(4.3) ขั้นการฝึกปฏิบัติ (4.4) ขั้นการสะท้อนผล (4.5) ขั้นการปรับปรุงพัฒนา และ
5) การวัดและประเมินผล
คุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนงานตัดเย็บ จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ มีความเห็นด้วยกับองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนงานตัดเย็บทุกองค์ประกอบ ผลการประเมินพบว่า มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย (¯X) เท่ากับ 4.66 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) เท่ากับ 0.36
คุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาการพัฒนาทักษะการตัดเย็บของนักเรียน มีค่าดัชนีความสอดคล้องเฉลี่ยเท่ากับ 0.92 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 0.50
คุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ มีค่าดัชนีความสอดคล้องเฉลี่ยเท่ากับ 0.98 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 0.50
ประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.28/85.86 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 75/75
นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ ความเข้าใจหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 21 คะแนน จากคะแนนเต็ม 50 คะแนน และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 42.40 คะแนน จากคะแนนเต็ม 50 คะแนน คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน 10.50 คะแนน มีพัฒนาการทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 73.79
นักเรียนมีทักษะการปฏิบัติงานในการใช้ การบำรุงรักษา และการจัดเก็บวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการตัดเย็บอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.30
นักเรียนมีทักษะการปฏิบัติงานตัดเย็บหลังฝึกสูงกว่าก่อนฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 ทักษะการปฏิบัติงานการตัดเย็บก่อนการฝึกมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 13.38 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน และหลังการฝึกมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 17.52 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน ทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียนหลังการฝึกเพิ่มขึ้นจากก่อนการฝึก 4.14 คะแนน มีพัฒนาการทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 62.53
นักเรียนมีคุณภาพชิ้นงานหลังการปฏิบัติงานการตัดเย็บอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.19
นักเรียนมีพฤติกรรมในการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.41 และมีพฤติกรรมในการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.55
จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่ารูปแบบการเรียนการสอนงานตัดเย็บ โดยใช้ชุดฝึกปฏิบัติทักษะการตัดเย็บ เป็นวิธีการสอนที่สามารถพัฒนาทักษะการตัดเย็บของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ