บทคัดย่อ
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบำรุงอิสลาม จังหวัดปัตตานี
โดย นางสาวแวฟาตีเมาะ เจ๊ะมูซอ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมความตั้งใจเรียน และการศึกษาค้นคว้า กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบำรุงอิสลาม 2. เพื่อศึกษาสหสัมพันธ์พหุคูณระหว่างพฤติกรรมความตั้งใจเรียน และการศึกษาค้นคว้า กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบำรุงอิสลาม 3. เพื่อสร้างสมการพยากรณ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ โดยใช้พฤติกรรมพฤติกรรมความตั้งใจเรียน และการศึกษาค้นคว้า เป็นตัวพยากรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบำรุงอิสลาม กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียนที่เรียนวิชาฟิสิกส์ (ว 32202) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม จากประชากรทั้งหมด 5 ห้องเรียน จำนวน 165 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบสังเกตความตั้งใจเรียน และแบบสอบถามการศึกษาค้นคว้าของนักเรียน แบบวัดผลสัมฤทธิ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความเที่ยงตรงตามเนื้อหา (Content Validity) ของแบบสังเกตและแบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์อัลฟ่า ค่าอำนาจจำแนก (Discrimination) รายข้อของเครื่องมือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลการศึกษาพบว่า
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบำรุงอิสลาม ปีการศึกษา 2556 เมื่อทำการสังเกตพฤติกรรมความตั้งใจเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางจากค่าเฉลี่ย 3.22 แต่เมื่อจำแนกตามรายข้อ พบว่า พฤติกรรมความตั้งใจเรียนมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 2.95 - 3.44 และพบว่าพฤติกรรมพยายามคิดคำตอบด้วยตนเองในเรื่องที่สงสัยก่อนถามครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ 3.44 รองลงมาคือพยายามทำความเข้าใจบทเรียนจากครูผู้สอนโดยไม่พูดคุยมีค่าเฉลี่ย 3.41 ขีดเส้นใต้หรือทำเครื่องหมายตรงส่วนที่สำคัญ มีส่วนร่วมกับเพื่อนๆในการปฏิบัติการทดลองทุกครั้ง ร่วมอภิปรายและนำเสนอเนื้อหาจากบทเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ 3.29 ฝึกโจทย์เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ครูให้มีค่าเฉลี่ย 3.26 มีใจจดจ่อต่อผลการทดลองที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนมีค่าเฉลี่ย 3.25 ถามเนื้อหาที่ไม่เข้าใจเมื่อครูเปิดโอกาสให้ถามมีค่าเฉลี่ย 3.18 ฟังคำอธิบายและติดตามเรื่องที่ครูสอนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 2.97 และพฤติกรรมจดบันทึกรายละเอียดของเนื้อหาครบถ้วนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ 2.95
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบำรุงอิสลาม ปีการศึกษา 2556 เมื่อทำการสอบถามพฤติกรรมการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมพบว่า พฤติกรรมการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางจากค่าเฉลี่ย 2.99 แต่เมื่อจำแนกตามรายข้อ พบว่า พฤติกรรมการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 2.69-3.11 และพบว่า พฤติกรรมค้นคว้าเรื่องที่สงสัย อยากรู้ ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ 3.11 รองลงมาคือถามปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนจากผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์มีค่าเฉลี่ย 3.10 อ่านบทเรียนล่วงหน้าจากคู่มือเสริมการเรียนมีค่าเฉลี่ย 3.06 ทำแบบฝึกหัดบางข้อที่ทำได้ล่วงหน้า ขออนุญาตศึกษาอุปกรณ์การทดลองก่อนชั่วโมงเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ 3.04 ฝึกโจทย์เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ครูให้มีค่าเฉลี่ย 3.02 ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากห้องสมุด อินเตอร์เนตมีค่าเฉลี่ย 2.99 ศึกษาเพิ่มเติมจากสถาบันการศึกษาอื่นมีค่าเฉลี่ย 2.96 พยายามค้นคว้าเพื่อแก้ปัญหาด้วยตนเองในการทำการบ้านมีค่าเฉลี่ย 2.89 และพฤติกรรมหาโอกาสทำการทดลองนอกเวลาเมื่อการทดลองเรื่องใดยังได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ 2.69
3. เมื่อพิจารณาคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์พบว่า คะแนนค่าเฉลี่ยของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์อยู่ที่ 18.513 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า โดยส่วนใหญ่นักเรียนทำคะแนนสอบได้มากกว่าครึ่ง
4. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายระหว่างพฤติกรรมการเรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ มีความสัมพันธ์กันในทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
5. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณระหว่างพฤติกรรมการเรียนกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์พหุคูณ R เท่ากับ .865 และพฤติกรรมการเรียนสามารถพยากรณ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ได้ร้อยละ 74.9