ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนคร

ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

ผู้ประเมิน จิราวรรณ ขอดเมชัย

สังกัด โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

ปีที่วิจัย 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ศึกษารูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม 2) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ประชากร ได้แก่ บุคลากรโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองนครพนม จำนวน 6 โรงเรียน ประกอบด้วย (1) ผู้อำนวยการสถานศึกษา และครูวิชาการ โรงเรียนละ 1 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 12 คน (2) บุคลากรในโรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ประกอบด้วยผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2 คน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ 10 คน หัวหน้าระดับสายชั้น 10 คน และครูผู้ปฏิบัติการสอน 66 คน รวมทั้งสิ้น 89 คน ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรกเป็นการวิจัย ขั้นตอนที่ 2 เป็นการพัฒนา ขั้นตอนที่ 3 เป็นการวิจัย (นำไปใช้จริง) และขั้นตอนสุดท้ายเป็นการพัฒนา (ประเมิน/ปรับปรุง) สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์ผู้บริหารโรงเรียนและครูวิชาการโรงเรียน ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่า

1. สภาพปัญหาการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารโรงเรียนและครูวิชาการจากโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ได้ข้อคิดเห็นที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารโรงเรียนและครูวิชาการจากโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีความคิดเห็นตรงกัน คือ การบริหารงานวิชาการเน้นการมีส่วนร่วมโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานใช้กระบวนการหลัก PDCA ตามองค์ประกอบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองนครพนม ยึดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 มีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมการพัฒนาครูสู่ครูมืออาชีพในการทำวิจัยในชั้นเรียนตลอดจนการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการเรียนการสอน เน้นการใช้สื่อ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน การนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ดำเนินการจัดระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาเพื่อรองรับการประเมินภายนอก นอกจากนี้ยังได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการจากนักการศึกษาสรุปเป็นแนวคิด คือ มีการกำหนดเกณฑ์การประเมิน เป้าหมายความสำเร็จของตัวชี้วัด สร้างความเข้าใจในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ กำหนดแนวทางการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตลอดจนการดำเนินการทำแผนยุทธศาสตร์กำหนดรูปแบบการบริหารงานวิชาการอย่างเป็นรูปธรรม

2. รูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่มีรูปแบบการบริหารจัดการเป็นตัวแปรต้นมีองค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 ร่วมมือ ประสานใจ องค์ประกอบที่ 2 ใส่ใจการประกัน องค์ประกอบที่ 3 ผลักดันการนิเทศการศึกษา องค์ประกอบที่ 4 พัฒนาการแนะแนว และองค์ประกอบที่ 5 สร้างการเรียนรู้ให้นักเรียนเทศบาลเมืองนครพนม มีตัวแปรตาม คือ คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองนครพนม

3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้าระดับสายชั้นและครูผู้ปฏิบัติการสอนที่มีต่อรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยภาพรวมทั้ง 5 องค์ประกอบ พบว่ามีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.12

4. ผลการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 การประเมิน ตรวจสอบค่าความถี่และร้อยละของข้อมูลของความคิดเห็นจากผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียนและหัวหน้าระดับสายชั้นโรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ที่มีต่อความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความถูกต้องเชิงทฤษฎีและการใช้ประโยชน์ได้จริงขององค์ประกอบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 100

ด้านความเหมาะสมขององค์ประกอบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0ได้พิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสมครอบคลุมปัจจัยที่จำเป็นในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนางาน คือ การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ซึ่งการพัฒนาให้นักเรียนเป็นนักเรียนที่มีคุณภาพได้จะต้องดำเนินการที่มีกระบวนการที่จะต้องพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของนักเรียน ประกอบด้วย กระบวนการและกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ซึ่งในการดำเนินงานการพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพได้นั้นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กร ชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของทุกฝ่ายซึ่งประกอบด้วยคณะครูและกรรมการสถานศึกษา ผู้นำชุมชนในการกำหนดนโยบาย การวางแผนการจัดการศึกษาตลอดจนการส่งเสริมสนับสนุนทุนการศึกษา วัสดุอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน การมีส่วนร่วมในการประเมิน ตรวจสอบการจัดการเรียนรู้ การบริหารจัดการศึกษาให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนดสอดคล้องกับนโยบายของเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งจากการส่งเสริมความร่วมมือจากทุกฝ่ายจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพนักเรียนและอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนา คือ การนิเทศการศึกษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำหรับการชี้แนะ แนะนำทุกอย่างแก่ครู นักเรียนและโรงเรียนเพื่อนำไปสู่การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความสามารถ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น กระบวนการแนะแนวก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนานักเรียนด้านการเรียนรู้ พฤติกรรม การศึกษาต่อรวมถึงการพัฒนานักเรียนด้านอาชีพได้เป็นอย่างดี รูปแบบการบริหารงานวิชาการจึงมีความสำคัญมากที่จะส่งผลให้ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาเข้มแข็งซึ่งจะเป็นการรับรองว่าโรงเรียนจะเป็นสถานศึกษาที่จะผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพออกมาสู่สังคมและประเทศชาติ

ด้านความเป็นไปได้ขององค์ประกอบรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้ง 5 องค์ประกอบนั้น ผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มให้ความคิดเห็นว่ามีความเป็นไปได้ตามมาตรฐานและเกณฑ์ที่เทศบาลเมืองนครพนมกำหนด เนื่องจากองค์ประกอบทั้ง 5 องค์ประกอบครอบคลุมการดำเนินงานในการพัฒนาผู้เรียนและมีแนวทางในการพัฒนานักเรียนให้เป็นนักเรียนที่มีคุณภาพ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง เครื่องมือมีความพร้อม ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายทุกภาคส่วน ครูมีการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความสามารถตามศักยภาพของนักเรียนแต่ละคน โดยได้รับการชี้แนะการจัดการศึกษาโดยกระบวนการนิเทศและการแนะแนวเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนให้การช่วยเหลือเพื่อให้การพัฒนางานวิชาการของนักเรียนได้อย่างถูกทาง พัฒนาด้านการจัดการเรียนรู้ของครูและบุคลากรด้านการศึกษา พัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา เปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการศึกษา ดังนั้นรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองนครพนมทั้ง 5 องค์ประกอบ นับว่ามีความเป็นไปได้ในการนำมาใช้เป็นรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0

ด้านความถูกต้องขององค์ประกอบรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้ง 5 องค์ประกอบ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เทศบาลเมืองนครพนมได้กำหนดไว้แตกต่างกันตรงชื่อขององค์ประกอบ แต่รายละเอียดของการดำเนินงานในแต่ละองค์ประกอบมีความสอดคล้องกัน ดังนั้นองค์ประกอบที่นำเสนอมาจึงมีความถูกต้องและครอบคลุมเพราะมีทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทุกฝ่าย เช่น โรงเรียน ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญที่สุด คือ การพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในมาตรฐานชาติ

ด้านการใช้ประโยชน์ได้จริงขององค์ประกอบรูปแบบการบริหารโรงเรียนคุณภาพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้ง 5 องค์ประกอบ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงเพราะเมื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานบริหารงานวิชาการที่โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ส่งผลให้โรงเรียนประสบความสำเร็จในการพัฒนาผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น การประกันคุณภาพทางการศึกษามีความเข้มแข็ง สร้างความมั่นใจแก่ผู้มารับบริการทางการศึกษา ผู้ปกครองส่งบุตรหลานเข้าเรียนเพิ่มมากขึ้น การบริการมีคุณภาพมีประสิทธิภาพ การดำเนินการบริหารงานวิชาการประกอบด้วยแนวทาง วิธีการดำเนินการ ตัวชี้วัด มาตรฐานที่กำหนดถึงคุณภาพการจัดการศึกษาทุกด้านเพื่อการดำเนินการและการปฏิบัติหน้าที่นำไปสู่การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพทางวิชาการ การพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของนักเรียน การนิเทศการศึกษา การแนะแนวการศึกษา การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการบริหารงานวิชาการ

โพสต์โดย นฤมิตร ภาคภูมิ : [11 ก.พ. 2563 เวลา 18:16 น.]
อ่าน [4909] ไอพี : 180.180.38.18
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,819 ครั้ง
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน

เปิดอ่าน 17,429 ครั้ง
คลอด ‘เกณฑ์ย้ายเฉพาะกิจ’ แก้ปม..ร้างผู้บริหาร 7 พันตำแหน่ง ทางออกสุดท้าย..ของ ก.ค.ศ.?
คลอด ‘เกณฑ์ย้ายเฉพาะกิจ’ แก้ปม..ร้างผู้บริหาร 7 พันตำแหน่ง ทางออกสุดท้าย..ของ ก.ค.ศ.?

เปิดอ่าน 14,730 ครั้ง
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น

เปิดอ่าน 17,680 ครั้ง
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ

เปิดอ่าน 28,805 ครั้ง
พระพิฆเนศ
พระพิฆเนศ

เปิดอ่าน 23,237 ครั้ง
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น

เปิดอ่าน 23,877 ครั้ง
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013

เปิดอ่าน 13,161 ครั้ง
วาซาบิ
วาซาบิ

เปิดอ่าน 23,252 ครั้ง
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ

เปิดอ่าน 11,187 ครั้ง
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน

เปิดอ่าน 14,234 ครั้ง
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)

เปิดอ่าน 21,474 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 50,960 ครั้ง
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551

เปิดอ่าน 13,127 ครั้ง
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?

เปิดอ่าน 10,306 ครั้ง
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 40,490 ครั้ง
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
เปิดอ่าน 59,674 ครั้ง
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
เปิดอ่าน 16,256 ครั้ง
การเลี้ยงไก่ไข่
การเลี้ยงไก่ไข่
เปิดอ่าน 15,734 ครั้ง
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 2...ฝีมือกระจ๋องหรองแหรง
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 2...ฝีมือกระจ๋องหรองแหรง
เปิดอ่าน 10,541 ครั้ง
สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด
สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ