ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
แนวทางการรายงานนวัตกรรมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

นวัตกรรม BANKOK MODEL

โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม น้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เกิดจากการขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างผู้บริหาร คณะครู บุคลากร นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองชุมชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่ายสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข ภายใต้ นวัตกรรม BANKOK MODEL ในการดำเนินการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ “โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข” โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ “๕ ด้าน กลยุทธ์ ๔ ต้อง ๒ ไม่” ดังนี้ ยุทธศาสตร์ ๕ ด้านได้แก่

๑. ด้านการป้องกัน ประกอบด้วย

๑.๑ การดำเนินงานห้องเรียนสีขาว

๑.๒ การจัดการเรียนการสอนตามแนวทางการจัดการเรียนรู้การสร้างภูมิคุ้มกัน

สารเสพติดเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต

๑.๓ การจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อป้องกันยาเสพติด

๒. ด้านการค้นหา ประกอบด้วย

๒.๑ การจัดทำข้อมูลนักเรียนรายบุคคล

๒.๒ การสุ่มตรวจปัสสาวะของนักเรียนกลุ่มเสี่ยง/กลุ่มเสพ/กลุ่มติด

๒.๓ การคัดกรองจำแนกกลุ่มปลอด/กลุ่มเสี่ยง/กลุ่มเสพ/กลุ่มติด/กลุ่มค้า

๒.๔ การรายงาน การสำรวจสภาพการใช้สารเสพติด/ยาเสพติด

๓. ด้านรักษา ประกอบด้วย

๓.๑ นโยบายในการบำบัดรักษาและส่งต่อ

๓.๒ การดำเนินงาน “คลินิกเสมารักษ์” จิตสังคมบำบัดในสถานศึกษา

๔. ด้านการเฝ้าระวัง ประกอบด้วย

๔.๑ การดำเนินงาน “ตู้เสมารักษ์” รับเรื่องปัญหายาเสพติดและอบายมุข

๔.๒ เครือข่ายด้านการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดและอบายมุข

๕. ด้านการบริหารจัดการ ประกอบด้วย

๕.๑ มีนโยบายและยุทธศาสตร์

๕.๒ มีแผนงานและโครงการ/กิจกรรม

๕.๓ มีคณะกรรมการดำเนินงานและมีห้องปฏิบัติกิจกรรม

๕.๔ มีความร่วมมือและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการบูรณาการบริหารแบบ

มีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน

๕.๕ มีการกำกับติดตาม ประเมินผล และรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กลยุทธ์ ๔ ต้อง ได้แก่

๑. มีกลยุทธ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและบริบทพื้นที่

๒. มีแผนงานยาเสพติดในสถานศึกษาที่ชัดเจน

๓. มีการพัฒนาระบบรองรับยุทธศาสตร์ ๔ ระบบ คือป้องกัน เฝ้าระวัง ดูแลช่วยเหลือ และบริหารจัดการ

4. มีเครือข่ายการทำงานระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน

๒ ไม่ ได้แก่

๑. ไม่ปกปิดข้อมูล กลุ่มเสพ กลุ่มติด กลุ่มค้ายาและไม่ผลักปัญหา และ

๒. ไม่ไล่นักเรียนออกจากสถานศึกษาแต่ต้องนำไปบำบัดรักษาแล้วกลับมาเรียนใหม่ได้โดยเฉพาะกิจกรรมห้องเรียนสีขาวโรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ดำเนินการห้องเรียนสีขาวครบทุกห้อง

คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐

การดำเนินกิจกรรมห้องเรียนสีขาว มีดังนี้

๑. องค์ประกอบของกลยุทธ์ห้องเรียนสีขาว ประกอบด้วย

๑.๑ การจัดการให้มีแหล่งเรียนรู้ด้านวิชาการ เช่น จัดบอร์ด จัดทำสื่อที่เป็นสิ่งพิมพ์ หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ จดหมายข่าวที่ให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด โรคเอดส์

การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และอุบัติภัย นำสถานการณ์ข่าวสารทุกด้านมาเสนอให้เพื่อนนักเรียน

รับฟัง

๑.๒ การดูแลช่วยเหลือจัดให้มีนักเรียนแกนนำดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันตอบสนองปัญหาของพฤติกรรมของนักเรียน ช่วยเหลือด้านการเรียนและให้คำปรึกษาแนะนำ ช่วยเหลือหากไม่สามารถแก้ไขได้ให้รายงานครูที่ปรึกษา

๑.๓ เอื้อเฟื้อด้วยคุณธรรม นักเรียนทุกคนจะต้องมีหลักธรรมคำสอนตามศาสนา

ที่ตนนับถือมาเป็นหลักยึดปฏิบัติในห้องเรียนเช่น พรหมวิหาร ๔ มีความเมตตา มีความกรุณา มีความมุทิตา และมีความอุเบกขาจะทำให้ทุกคนรักกันช่วยเหลือกัน

๑.๔ กิจกรรมสร้างสรรค์มีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ที่จะช่วยให้มีความสามัคคี

และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ไม่ไปมั่วสุมกับยาเสพติด หรือสื่อลามกอนาจารเช่น การเล่นกีฬา

การเล่นดนตรี ศิลปะและกิจกรรมตามที่กลุ่มสนใจร่วมกันจัดทำมาเพื่อพัฒนาร่างกาย และจิตใจรวมทั้งกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา

๒. การจัดองค์กรภายในห้องเรียนสีขาว ประกอบด้วย ๔ ฝ่าย ได้แก่

๒.๑ ฝ่ายการเรียน (มีแหล่งเรียนรู้)

๒.๒ ฝ่ายการงาน (ดูแลช่วยเหลือ)

๒.๓ ฝ่ายกิจกรรม (สร้างสรรค์ด้วยกิจกรรม)

๒.๔ ฝ่ายสารวัตรนักเรียน/ กิจการนักศึกษา (เอื้อเฟื้อด้วยคุณธรรม)

การดำเนินโครงการการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม จังหวัดกาฬสินธุ์

โดยใช้รูปแบบ BANKOK MODEL ปีการศึกษา 2561

โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคมได้น้อมนำวิธีการของศาสตร์พระราชาคือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา โดยต้องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา คนวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม
เข้าใจ หมายถึง การใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วการใช้และแสวงหาข้อมูลเชิงประจักษ์ การวิเคราะห์และการวิจัยการทดลองใช้จนได้ผลจริงก่อนเข้าถึง หมายถึงการระเบิดจากข้างในเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนา และสร้างปัญญาสังคม
พัฒนา หมายถึงการพัฒนาที่ประชาชนเริ่มต้นด้วยตนเอง พึ่งพาตนเองได้และมีต้นแบบในการเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนได้เรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้


การประยุกต์แห่งศาสตร์พระราชา ต้องทำให้ด้วยความรักและด้วยใจต้องประยุกต์ใช้อย่างยั่งยืน ไม่ยึดติดตำรา ปรับตามบุคคล ภูมิสังคมสภาพพื้นที่และสถานการณ์ โดยมีขั้นตอนการบริหารสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ดังนี้

หลักเข้าใจ มี 2 ขั้นตอน

ขั้นที่ 1 Big Dream จุดประกายความฝัน

สร้างแรงบันดาลใจ ทำงานแบบรวมพลัง แบ่งบทบาทหน้าที่ของครูในโรงเรียนเพื่อดำเนินการประชุมวางแผนงาน ตั้งวัตถุประสงค์ กำหนดกลุ่มเป้าหมาย รูปแบบการดำเนินโครงการร่วมกัน

ขั้นที่ 2 Active Learning รังสรรค์กิจกรรม

ออกแบบกิจกรรมเชิงรุก มุ่งเน้น การลงมือปฏิบัติในการทำกิจกรรมโครงการ

หลักเข้าถึง มี 3 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นที่ 3 Network ดำเนินงานร่วมเครือข่าย

ประสานงานให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมและวิทยากร ได้แก่ ผู้นำชุมชน หน่วยงานต่างๆ ภาคีเครือข่าย

ขั้นที่ 4 Knowledge สานสายใยความรู้ ให้ความรู้เรื่องยาเสพติด อบายมุข ผลกระทบเมื่อตัดสินใจผิดพลาด การส่งเสริมแนวทางอาชีพแก่นักเรียน เพื่อเป็นพื้นฐานในการคิด การตัดสินใจ และการตระหนักรู้ นำไปสู่คุณลักษณะที่พึงประสงค์

ขั้นที่ 5 Organization สู่ทีมยอดเยี่ยม

กิจกรรมกลุ่มเพื่อสร้างนักเรียนแกนนำ จัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

หลักพัฒนา มี 1 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นที่ 6 Kindness เต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรม

ดำเนินการวัดและประเมินผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ในเรื่องยาเสพติด การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และการแก้ไขปัญหาในรูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์

การนำนวัตกรรม BANKOK MODEL สู่การปฏิบัติ

กิจกรรมหรือโครงการที่โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ได้ดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาตามาตรการ 5 มาตรการ และกลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ ได้แก่

1.1 มาตรการป้องกัน

- ครูพระสอนศีลธรรมหรือครูผู้นำศาสนาสอนจริยธรรมตามแต่ละหลักศาสนา

- ครูตำรวจ

- ครูแกนนำ พ.ส.น.

- กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ต้านยาเสพติด

- การจัดกิจกรรมวัยใสไม่ท้องก่อนวัย ห่างไกลยาเสพติด

- การจัดกิจกรรมต้านยาเสพติดของนักเรียน

- กิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมตามศาสนา

- กิจกรรมจิตอาสา/บำเพ็ญสาธารณประโยชน์

- กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดหรือการป้องกันยาเสพติด

- กิจกรรมฝึกอาชีพ / แหล่งเรียนรู้ภายในชุมชน

- กิจกรรมส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ เช่น กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การใช้เทคโนโลยี

- กิจกรรมกีฬาและนันทนาการ เช่น กิจกรรมวัฒนธรรม ศิลปะ คีตะมวยไทย ฯลฯ

- มีวิทยากรเพื่อการป้องกันยาเสพติดเข้าสอนนักเรียนในสถานศึกษา

- มีการจัดกิจกรรมช่วงเวลาหลังเลิกเรียน

- มีการจัดกิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียน

1.2 มาตรการค้นหา

- มีการสำรวจ ค้นหา นักเรียนกลุ่มเสี่ยงเสพ/ติดและกลุ่มค้าโดยอำเภอร่วมกับตำรวจ

- การตรวจปัสสาวะ/ด้วยการคัดกรอง/RE-X-RAY

1.3 มาตรการรักษา

- การจัดตั้งกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน (นักเรียนแกนนำ ๔ ฝ่าย)

- มีการจัดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

- มีการจัดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสพ

- มีการทำจิตสังคมบำบัดในโรงเรียน

- มีการส่งต่อผู้เสพ/ผู้ติดเข้ารับการบำบัดรักษาที่อื่น

- ดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

- การเยี่ยมบ้านนักเรียน

1.4 มาตรการเฝ้าระวัง

- มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานในสถานศึกษา

- มีการสำรวจพื้นที่เสี่ยง/ปัจจัยเสี่ยงรอบสถานศึกษาในระยะ 1 กิโลเมตร

- มีการตรวจเยี่ยม/ตรวจตราพื้นที่เสี่ยงรอบสถานศึกษาในระยะ 1 กิโลเมตร

- มีนักเรียนแกนนำต่อต้านยาเสพติด

- มีครูแกนนำที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด

- มีการจัดตั้งเครือข่ายผู้ปกครองและเครือข่ายจัดระเบียนนักเรียนในสถานศึกษาและชุมชน

1.5 มาตรการบริหารจัดการ

- มียุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและบริบทในพื้นที่

- มีการจัดทำแผนงานยาเสพติดในสถานศึกษาที่ชัดเจน

- มีการจัดทำคำสั่งมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบและข้อสั่งการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ

- มาตรการเสริมแรงพิจารณายกย่องเชิดชูเกียรติ โล่ เกียรติบัตร

- มาตรการลงโทษดำเนินการทางวินัยและอาญา

1.6 กลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่

- มีการกำหนดยุทธศาสตร์

- มีการจัดทำแผนปฏิบัติงาน

- มีระบบข้อมูลทั้ง 4 ระบบ ได้แก่ ระบบการป้องกัน ระบบการเฝ้าระวัง

ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และระบบการบริหารจัดการ

- มีเครือข่ายการทำงานระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครองและชุมชน

- ไม่ปกปิดข้อมูลนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ และกลุ่มค้า

- ไม่ไล่นักเรียนที่เสพและติดยาเสพติดออกจากสถานศึกษาและนำเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา

ด้านปริมาณ

นักเรียนโรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๒๘๔ คน ได้รับการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดทุกคน

ด้านคุณภาพ

นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในโทษและพิษภัยของยาเสพติด มีทักษะในการดำเนินชีวิต ตระหนักรู้และเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น มีการคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ รู้จักจัดการกับอารมณ์และความเครียด และการสร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้อื่น มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมีภูมิคุ้มกันการติดสารเสพติดอย่างยั่งยืน

จุดเด่น

1. ผู้บริหารครู ผู้ปกครองละชุมชน ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ตั้งใจ เสียสละ และอุทิศเวลาให้กับการปฏิบัติงาน การสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดในสถานศึกษาการเฝ้าระวังและการป้องกันยาเสพติดไม่ปกปิดข้อมูล ไม่ผลักภาระและประสานความร่วมมือกับฝ่ายสารวัตรนักเรียนและตำรวจกรณีปัญหาความเสี่ยงในการปฏิบัติงานซึ่งต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

2. กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดให้กับผู้เรียน สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและตรงตามสภาพปัญหา

3. สถานศึกษาสอดแทรกทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันการติดสารเสพติดด้วยการบูรณาการการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระ

4. สร้างเครือข่ายการดำเนินงานเพื่อต่อต้านยาเสพติดที่เข้มแข็ง ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดำเนินงานเป็นอย่างดียิ่ง

โพสต์โดย ครูเก๋ : [6 ก.พ. 2563 เวลา 22:01 น.]
อ่าน [4906] ไอพี : 223.206.218.8
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 59,319 ครั้ง
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 11,765 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"

เปิดอ่าน 14,602 ครั้ง
7 เรื่องผิดพลาดในการใช้เงิน ที่ทำให้คุณไม่รวยสักที
7 เรื่องผิดพลาดในการใช้เงิน ที่ทำให้คุณไม่รวยสักที

เปิดอ่าน 13,016 ครั้ง
7 ขั้นตอนก้าวเปลี่ยนชีวิตสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน
7 ขั้นตอนก้าวเปลี่ยนชีวิตสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน

เปิดอ่าน 45,871 ครั้ง
สูตรทำมะนาวดองน้ำผึ้ง
สูตรทำมะนาวดองน้ำผึ้ง

เปิดอ่าน 14,482 ครั้ง
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น

เปิดอ่าน 31,731 ครั้ง
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย

เปิดอ่าน 17,117 ครั้ง
4 อาหารอัพสมองให้ใสในยามบ่าย คิดงานอะไรก็เวิร์ก
4 อาหารอัพสมองให้ใสในยามบ่าย คิดงานอะไรก็เวิร์ก

เปิดอ่าน 40,508 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : อาร์คีมีดีส : Archimedes
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : อาร์คีมีดีส : Archimedes

เปิดอ่าน 12,839 ครั้ง
คลิปกัปตันออกมายอมรับ ผมกลับเข้าห้องนักบินไม่ได้ !!
คลิปกัปตันออกมายอมรับ ผมกลับเข้าห้องนักบินไม่ได้ !!

เปิดอ่าน 11,106 ครั้ง
คุณสมบัติของ คนที่ประสบความสำเร็จ (จบ)
คุณสมบัติของ คนที่ประสบความสำเร็จ (จบ)

เปิดอ่าน 1,158 ครั้ง
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google
seo คืออะไร? เผยกลยุทธ์และเทคนิคสำคัญให้ติดหน้าแรก google

เปิดอ่าน 18,908 ครั้ง
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?

เปิดอ่าน 3,752 ครั้ง
6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน
6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน

เปิดอ่าน 10,693 ครั้ง
น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ
น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ

เปิดอ่าน 14,010 ครั้ง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
เปิดอ่าน 60,986 ครั้ง
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยอยุธยา
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยอยุธยา
เปิดอ่าน 17,015 ครั้ง
ใครเป็นหนี้???..มีทางออก
ใครเป็นหนี้???..มีทางออก
เปิดอ่าน 13,103 ครั้ง
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้
เปิดอ่าน 40,756 ครั้ง
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ