บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80
(2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 70 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียน
บัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปีการศึกษา 2561 จำนวน 35 คน ด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกทักษะ จำนวน 9 เล่ม แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
9 ฉบับ รวม 90 ข้อ มีค่าความสอดคล้องเชิงเนื้อหาตั้งแต่ 0.60-1.00 ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.25-0.75
ค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.30-0.80 ค่าความเชื่อมั่นตั้งแต่ 0.84-0.86 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ จำนวน 30 ข้อ มีค่าความสอดคล้องเชิงเนื้อหาตั้งแต่ 0.80-1.00 ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.30-0.70 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.30-0.70 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 20 ข้อ มีค่าสหสัมพันธ์อย่างง่าย
ตั้งแต่ 0.64-0.89 และความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.97 และแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน สถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ ค่าดัชนีประสิทธิผล และค่า t-test พบว่า
1. แบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ มีประสิทธิภาพรวมเฉลี่ยเท่ากับ 86.37/84.27 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. แบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ มีประสิทธิผลรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับดี คือ
มีค่าเท่ากับ 76.62 สูงกว่าเกณฑ์ 70 แสดงว่า มีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 76.62
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่า
ขลุ่ยเพียงออ รวมเฉลี่ยทั้ง 9 เล่ม สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ
เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด รายข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ นักเรียน
มีเจตคติทางการเรียนที่ดีจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเป่าขลุ่ยเพียงออ รองลงมา คือ แบบฝึกทักษะช่วยแก้ปัญหาการเรียนไม่ทันเพื่อน