ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด

บทคัดย่อ

การวิจัยการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน

สิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในการวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D ) โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเชิงผสมผสานแบบรองรับภายใน (The Embedded Design) ด้วยการศึกษาวิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) เสริมด้วยวิธีการเชิงปริมาณ(Quantitative Methods) มีขั้นตอนการวิจัย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการสำหรับพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษา คือ เอกสารพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2553 หลักสูตรสิ่งแวดล้อมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เอกสารประเมินผลตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เอกสารแนวคิด ทฤษฏี หลักการ เนื้อหาสาระ รูปแบบ วิธีการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎี การเรียนรู้แบบร่วมมือ ทฤษฎีการสร้างความรู้ และกระบวนการ Active Learning ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษาผู้นำชุมชนและนักเรียน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษา แหล่งข้อมูล คือ ผู้เชี่ยวชาญ และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านหัวหิน

(ประชาธิปถัมถ์) เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ขั้นตอนที่ 3 และขั้นตอนที่ 4 การทดลองใช้รูปแบบและการประเมินความพึงพอใจ แหล่งข้อมูล คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านหัวหิน (ประชาธิปถัมถ์) เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 50 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ด้วยการจับสลากห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ ทฤษฎีการสร้างความรู้ และกระบวนการ Active Learning แผนการจัดการเรียนรู้

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แบบประเมินความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน สถิติ ที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าสถิติ t-test

ผลการวิจัย พบว่า

1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า รูปแบบ การเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2553 ที่มุ่งสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ สร้างโอกาสให้คนไทยทุกคนคิดเป็น ทำเป็น มีเหตุผล สามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สอดคล้องหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่ได้กำหนดสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5 ประการ ซึ่งสมรรถนะสำคัญประการหนึ่ง คือ เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน รอบ 3 จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาองค์การมหาชน (สมศ.) มาตรฐานที่ 3 ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง มาตรฐานที่ 5 ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร ตัวบ่งชี้ที่ 5.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละกลุ่มสาระ เป็นไปตามเกณฑ์ และตัวบ่งชี้ที่ 5.2 ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตรเป็นไปตามเกณฑ์ และยังสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำชุมชนที่ต้องการให้รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ต้องการมุ่งเน้นให้นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยนักเรียนเป็นเจ้าของการเรียน รับผิดชอบการเรียนของตนเอง ลงมือปฏิบัติจริง และมีการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์กับบุคคล อื่น ๆ ดังนั้น ความรู้ที่ได้จึงเกิดจากการที่นักเรียนสร้างขึ้นเองจากการทำกิจกรรมการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและบุคคลอื่น ๆ และจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนักเรียนจะนำความรู้ใหม่รวมกับความรู้เดิม เกิดเป็นการขยายความรู้ หรือความรู้ใหม่ขึ้นเองที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่างๆ ได้พร้อมกับการเกิดชิ้นงานจากการปฏิบัติงานขึ้นและนำเสนอ ต่อชั้นเรียนต่อไป โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ เป็นตัวผลักดันให้เกิด

การเรียนรู้ในลักษณะของรูปแบบการเรียนการสอนขึ้น มีองค์ประกอบด้านครูผู้สอนที่มีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงานและกระบวนการสอนให้นักเรียนฝึกปฏิบัติงานได้ จัดหาสื่อนวัตกรรมที่ส่งเสริมทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเต็มที่ ด้านรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎี การเรียนรู้แบบร่วมมือ ทฤษฎีการสร้างความรู้ และกระบวนการ Active Learning มีขั้นตอนการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการปฏิบัติงานไปทีละขั้น นำสถานการณ์ ปัญหา หรือเนื้อหาสาระการเรียนรู้มาให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้นำเสนอผลงาน ด้านการประเมินผลได้มีวิธีการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลาย ระหว่างเรียน หลังเรียน และต้องการให้รูปแบบการเรียนการสอนนี้เป็นการส่งเสริมพัฒนาทักษะ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนในการที่จะนำไปใช้ในการเรียนและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

2. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับ

การเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า “IPCCE Model” โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สิ่งที่ ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง ปัจจัยสนับสนุน และเงื่อนไขสำคัญในการใช้ รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จใช้โดยรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นระบุประเด็นปัญหา (Identification of problems : I) 2) ขั้นวางแผนดำเนินงาน (Planning process: P) 3) ขั้นสร้างองค์ความรู้ (Creation of Knowledge: C) 4) ขั้นใช้วิจารณญาณเชื่อมโยง (Critical linking steps: C) 5) ขั้นสรุปและประเมินผล (Evaluation ) : E มีผลการตรวจสอบความเหมาะสม/ความสอดคล้องของผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง (Construct Validity)และความเที่ยงตรงของเนื้อหา( Content Validity) ภาษาที่ใช้มีความเหมาะสม/สอดคล้องของประเด็นในการสร้างรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ ทฤษฎีการสร้างความรู้ และกระบวนการ Active Learning อยู่ในระดับมากที่สุดทุกรายการ มีค่าความเหมาะสม/สอดคล้องมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.97 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.09

3. การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับ การเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า

3.1 รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้ แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 = 80.57/81.27 ซึ่งมีค่าประสิทธิภาพ

ตามเกณฑ์ 80/80

3.2 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.3 การประเมินทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 25.22 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.06 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 2.24 ผลการประเมินทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณอยู่ในระดับ ดีมาก

3.4 การประเมินความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 43.48 จากคะแนนเต็ม 48 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90.58 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.39 ผลการประเมินความสามารถในนความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้

รูปแบบการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน

โพสต์โดย ครูตุ๋ม : [16 ธ.ค. 2562 เวลา 18:57 น.]
อ่าน [3378] ไอพี : 182.232.130.20
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,944 ครั้ง
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน

เปิดอ่าน 23,057 ครั้ง
สางประวัติเน่า เปิดหนี้ไม่บันทึก เช็ก BLACKLIST...10 ข้อต้องรู้ เครดิตบูโร!
สางประวัติเน่า เปิดหนี้ไม่บันทึก เช็ก BLACKLIST...10 ข้อต้องรู้ เครดิตบูโร!

เปิดอ่าน 22,545 ครั้ง
เครื่องหมาย *, # ในโทรศัพท์มีไว้ทำไม
เครื่องหมาย *, # ในโทรศัพท์มีไว้ทำไม

เปิดอ่าน 11,513 ครั้ง
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"

เปิดอ่าน 18,340 ครั้ง
เอกสารประกอบการสอนเสริมเพื่อเตรียมสอบ O-NET
เอกสารประกอบการสอนเสริมเพื่อเตรียมสอบ O-NET

เปิดอ่าน 1,669 ครั้ง
กรดไหลย้อน และการรักษากรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน และการรักษากรดไหลย้อน

เปิดอ่าน 35,549 ครั้ง
หน้าที่ชาวพุทธ
หน้าที่ชาวพุทธ

เปิดอ่าน 54,871 ครั้ง
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)

เปิดอ่าน 6,687 ครั้ง
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด

เปิดอ่าน 1,780 ครั้ง
ประโยชน์ของโหระพา
ประโยชน์ของโหระพา

เปิดอ่าน 30,396 ครั้ง
8 วิธีสุดฮิต พิชิตความรวยบนโลกออนไลน์
8 วิธีสุดฮิต พิชิตความรวยบนโลกออนไลน์

เปิดอ่าน 9,657 ครั้ง
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้

เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 80,291 ครั้ง
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต

เปิดอ่าน 18,426 ครั้ง
อาร์คิมีดีส
อาร์คิมีดีส

เปิดอ่าน 26,750 ครั้ง
กำเนิด 4 อาชีพใหม่ไอที
กำเนิด 4 อาชีพใหม่ไอที
เปิดอ่าน 36,899 ครั้ง
รายงานการวิจัยและพัฒนานโยบายกาศึกษาครูและบุคลากรทางการศึกษา (2553)
รายงานการวิจัยและพัฒนานโยบายกาศึกษาครูและบุคลากรทางการศึกษา (2553)
เปิดอ่าน 45,866 ครั้ง
เจาะ 40 ปีการศึกษาไทย เป๋ไปเป๋มา...ดิ่งลงเหว!! : ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์
เจาะ 40 ปีการศึกษาไทย เป๋ไปเป๋มา...ดิ่งลงเหว!! : ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์
เปิดอ่าน 21,755 ครั้ง
มรดกโลกของไทย
มรดกโลกของไทย
เปิดอ่าน 8,884 ครั้ง
10 บัญญัติขจัดโรคน้ำท่วม
10 บัญญัติขจัดโรคน้ำท่วม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ