ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทย เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐาน
ทางคณิตศาสตร์สำหรับชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี สาระการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก
หน่วย คณิตคิดสนุก
ผู้รายงาน นางสุภี นิจจะพจน์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองกุง อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
สังกัด องค์การบริหารส่วนตำบลสมเด็จ
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่องรายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทย เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี สาระการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก หน่วย คณิตคิดสนุก
ครั้งนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ (1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพการจัดประสบการณ์โดยการใช้ กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทย เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี สาระการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก หน่วย คณิตคิดสนุก ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยการใช้ชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทยที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้น และ (3) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการจัดประสบการณ์ด้วยชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทย
ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองกุง อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลสมเด็จ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 20 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์ ชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทยเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี และ แบบประเมินทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ ttest
ผลการศึกษา พบว่า ชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทย เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.38 / 80.67 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่คาดหวังไว้คือ 80/80 ดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์โดยการใช้ชุดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านไทยเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นเด็กเล็ก 3-4 ปี เท่ากับ 0.6209 หรือร้อยละ 62.09 และ ผู้เรียนมีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05