ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดนักเรียน ของโรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิ

ชื่องานวิจัย การศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดนักเรียน

ของโรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิ

ชื่อผู้วิจัย นายธีระยง ปิยะปรีชายุทธ ศึกษานิเทศก์

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชัยภูมิ

บทคัดย่อ

การศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดนักเรียนของโรงเรียน

ของโรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียนระดับช่วงชั้นที่ 1-4 ของโรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิกลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ที่คำนวณจากสูตรกลุ่มตัวอย่างของYamaneจำนวน241คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามการศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดนักเรียนของโรงเรียนในจังหวัดชัยภูมิ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วย 3 ตอน จำนวน 52 ข้อ

ผลการวิจัยพบว่า

ภาพรวมสภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง แต่มีการจัดการเรียนรู้ที่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก คือ การจัดการเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้เป็นกลุ่ม การจัดการเรียนรู้แบบระดมสมอง การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ความรู้ การจัดการเรียนรู้แบบ KWL การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์

การจัดการเรียนรู้แบบพยากรณ์ การจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา การจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน และการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถาม ซึ่งรายละเอียดในแต่ละกิจกรรมการเรียนรู้มีดังนี้

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบอุปนัย

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง แต่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก คือ

การจัดกระบวนการเรียนรู้จากรายละเอียดไปสู่การกำหนดเกณฑ์ หลักเกณฑ์ข้อเท็จจริงหรือข้อสรุป

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรกคือ ให้ผู้เรียนนำทฤษฎีหลักการต่างๆ ไปใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบค้นพบ

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก แต่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลางคือการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบวิทยาศาสตร์โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง แต่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก คือ การฝึกให้ผู้เรียนคิดค้นวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ โดยใช้ลำดับขั้นตอน 5 ขั้น คือ การกำหนดปัญหา การตั้งสมมติฐาน การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การสรุปและการประเมินผล

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบทดลอง

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ

การจัดการเรียนรู้จากการทดลอง 5 ขั้น ได้แก่ การเตรียมการทดลอง ทดลอง เสนอผลการทดลอง สรุป อภิปรายผล ประเมินผล

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบแก้ปัญหา

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ ให้ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างมีขั้นตอน มีเหตุผลด้วยการแลกเปลี่ยนความคิด

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบแก้ปัญหา

โดยใช้สารสนเทศ โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีการปฏิบัติอันดับแรก

คือ ให้ผู้เรียนใช้สารสนเทศในการนำเสนอ และประเมินผลการเรียนรู้

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบการใช้คำถามโดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก แต่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง การใช้คำถามเพื่อให้ผู้เรียนบอกความสัมพันธ์ของเหตุและผล และการใช้คำถามเพื่อให้ผู้เรียนกำหนดนิยามหรืออธิบาย และการใช้คำถามเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดวิจารณ์

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบ KWL

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ การฝึกให้ผู้เรียน

ได้ทบทวนความรู้เดิม

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก แต่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง คือ

ฝึกให้ผู้เรียนเผชิญหรือแก้ปัญหาจากสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์สมมุติ

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ คือ การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่แตกต่างกัน

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบระดมสมองโดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ ให้ผู้เรียนได้แสดงออกและแสดงความคิดเห็นทุกคนอย่างเสรี โดยไม่วิจารณ์ความคิดของผู้อื่น

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบซินเนคติกส์โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ความรู้ โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ ฝึกให้ผู้เรียนเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก แต่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง คือ

การฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการสืบเสาะ ค้นหาความรู้อย่างมีกระบวนการ มีเหตุผล

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้เป็นกลุ่ม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก คือ ให้ผู้เรียนมีอิสระในการศึกษาหาความรู้ตามหลักประชาธิปไตย และเน้นกระบวนการกลุ่ม

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ

การฝึกให้ผู้เรียนวิเคราะห์ผลงานของตนเอง โดยอธิบายขั้นตอนการทำงานได้

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบจัดกรอบมโนทัศน์ โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก คือ

ให้ผู้เรียนได้ฝึกสังเกต เปรียบเทียบ และจำแนกแล้วสรุป และจัดหมวดหมู่

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้ผังความรู้แบบวี โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีการปฏิบัติเป็นอันดับแรก คือ

การให้ผู้เรียนเขียนแผนผังแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เป็นวิธีการทดลอง หรือการกระทำกับสิ่งที่เป็นหลักการหรือทฤษฎี

สภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ในการจัดการเรียนรู้แบบพยากรณ์

โดยภาพรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และมีการปฏิบัติมากเป็นอันดับแรก คือ การให้ผู้เรียนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันโดยการตัดสินใจที่จะเลือกการกระทำหรือหลีกเลี่ยงการกระทำ

โพสต์โดย ใหญ่ : [19 พ.ย. 2562 เวลา 12:01 น.]
อ่าน [4844] ไอพี : 134.236.221.30
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 46,353 ครั้ง
อักษรไทยสมัยสุโขทัย
อักษรไทยสมัยสุโขทัย

เปิดอ่าน 40,741 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู

เปิดอ่าน 5,986 ครั้ง
ติดฟิล์มรถยนต์ราคาถูก ติดรุ่นไหนดี ควรเลือกอย่างไร ?
ติดฟิล์มรถยนต์ราคาถูก ติดรุ่นไหนดี ควรเลือกอย่างไร ?

เปิดอ่าน 9,784 ครั้ง
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว

เปิดอ่าน 20,272 ครั้ง
บทบาทของการสื่อสารและเครือข่ายฯ
บทบาทของการสื่อสารและเครือข่ายฯ

เปิดอ่าน 9,130 ครั้ง
เตือนสถานที่วัยรุ่นเสี่ยงติดหวัด 2009 จะมีที่ไหนบ้าง เตรียมระวัง!
เตือนสถานที่วัยรุ่นเสี่ยงติดหวัด 2009 จะมีที่ไหนบ้าง เตรียมระวัง!

เปิดอ่าน 23,854 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ

เปิดอ่าน 11,028 ครั้ง
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด

เปิดอ่าน 9,959 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (จบ)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (จบ)

เปิดอ่าน 24,202 ครั้ง
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"

เปิดอ่าน 10,076 ครั้ง
เคล็ดการอ่านสอบ เรื่อง ความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
เคล็ดการอ่านสอบ เรื่อง ความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน

เปิดอ่าน 20,311 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู

เปิดอ่าน 18,741 ครั้ง
ความรู้เรื่องเมืองสยาม
ความรู้เรื่องเมืองสยาม

เปิดอ่าน 9,776 ครั้ง
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท

เปิดอ่าน 23,134 ครั้ง
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร

เปิดอ่าน 18,459 ครั้ง
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ
เปิดอ่าน 36,209 ครั้ง
คุณหมอเผย 9 เทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้เรียนเก่ง
คุณหมอเผย 9 เทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้เรียนเก่ง
เปิดอ่าน 16,826 ครั้ง
เงิน กับ ธรรมะ
เงิน กับ ธรรมะ
เปิดอ่าน 12,592 ครั้ง
"คราวหน้า พับเล็กๆนะครับ" คลิปฉาวตำรวจจราจรรับเงิน
"คราวหน้า พับเล็กๆนะครับ" คลิปฉาวตำรวจจราจรรับเงิน
เปิดอ่าน 24,726 ครั้ง
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ