ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง การพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านนาเมย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

ชื่อเรื่อง การพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านนาเมย

อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

ผู้วิจัย นายวีระ โพธิรุขา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาเมย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ประถมศึกษาหนองคาย เขต 2

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

สภาพแวดล้อมทางการเรียนเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญส่งผลต่อสุขภาพและประสิทธิภาพของการจัดการศึกษาในทุกระดับโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการจัดการเรียนการสอน เพราะมีส่วนในการกระตุ้นอารมณ์และสติปัญญาของนักเรียน การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ้านนาเมย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคายให้มีบรรยากาศร่มรื่นสวยงามสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ตามกรอบการศึกษาค้นคว้า 2 ด้านคือด้านการจัดห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนการสอนและการสร้างบรรยากาศที่ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจและมีแรงจูงใจในการเรียนการดำเนินการพัฒนาใช้หลักการวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) การดำเนินการ 2 วงรอบแต่ละวงรอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือการวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือการประชุมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรม 5 การนิเทศภายใน และการติดตามตรวจสอบและประเมินผล

กลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าจำนวน 4 คนประกอบด้วยผู้ศึกษาค้นคว้า ครูผู้สอนระดับอนุบาล ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มผู้ให้ข้อมูลจำนวน 32 คนประกอบด้วย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 18 คน ครูผู้สอน จำนวน 4 คน ครูหัวหน้างานบริหารวิชาการ จำนวน 1 คน ครูหัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป จำนวน 1 คน ครูหัวหน้างานอาคารสถานที่ จำนวน 1 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 7 คน กรรมการสถานศึกษา จำนวน 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบทดสอบ แบบประเมิน แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต การตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation Technique) และนำเสนอผลการวิจัยโดยวิธีพรรณนา

ผลการวิจัย พบว่าหลังจากการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการกิจกรรม 5 ส และการติดตามตรวจสอบประเมินผลจากการดำเนินงานกิจกรรมดังกล่าว พบว่าผู้ร่วมศึกษาค้นคว้ามีความรู้ความเข้าใจในการจัดสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียนและกิจกรรม 5 ส สามารถเขียนแผนการจัดประสบการณ์เพื่อต่อการเรียนรู้ได้ดีครูและนักเรียนแต่ละห้องช่วยกันจัดตกแต่งห้องเรียน มีป้ายนิเทศ มีมุมหนังสือประจำห้องเรียน จัดโต๊ะครูและนักเรียนเป็นระเบียบ สภาพแวดล้อมในห้องเรียนสะอาด เป็นระเบียบ ครูมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน แต่ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกต่อไป คือ การรักษาความสะอาดและเป็นระเบียบอย่างต่อเนื่องครูยังจัดกิจกรรมไม่หลากหลายนักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมน้อยซึ่งต้องปรับปรุงพัฒนาในวงรอบที่ 2 ต่อไปโดยใช้กิจกรรม 5ส และกิจกรรมการนิเทศพบว่าครูและนักเรียนได้พัฒนาสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้มีความสะอาดและเรียบร้อยมากขึ้นเป็นที่น่าพอใจของกลุ่มผู้ร่วมศึกษาค้นคว้าจนมีผลการประเมินสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียนผ่านเกณฑ์และได้รับมอบเกียรติบัตรทุกห้องครูได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสอน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ทักษะการสอนทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ นักเรียนมีความสุขและสนุกกับการเรียนส่งผลให้นักเรียนอยากมาโรงเรียนดังนั้นเมื่อดำเนินการพัฒนาจนครบทั้ง 2 วงรอบทำให้สภาพแวดล้อมในโรงเรียนเพื่อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนดียิ่งขึ้น

โดยสรุปการดำเนินการพัฒนาสภาพแวดล้อมในโรงเรียนต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ประชุมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรม 5 ส การนิเทศและการติตาม ตรวจตรวจสอบและประเมินผลทำให้สภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนการจัดกิจกรรมประสบการณ์การเรียนรู้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลนักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข จึงควรสนับสนุนให้ผู้บริหารครูผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษานำกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้ในการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

โพสต์โดย ผอ. วีระ : [18 พ.ย. 2562 เวลา 07:46 น.]
อ่าน [5071] ไอพี : 110.78.183.211
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,387 ครั้ง
หนอนคืบ
หนอนคืบ

เปิดอ่าน 11,327 ครั้ง
จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ
จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ

เปิดอ่าน 13,189 ครั้ง
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ

เปิดอ่าน 20,367 ครั้ง
ความหมายของเครื่องในพิธี
ความหมายของเครื่องในพิธี

เปิดอ่าน 19,687 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 10,762 ครั้ง
17 พฤติกรรมบ่งชี้ ออทิสติกในเด็ก
17 พฤติกรรมบ่งชี้ ออทิสติกในเด็ก

เปิดอ่าน 9,060 ครั้ง
รวมฮิตโรคเด่น-เด็กเสี่ยงเป็นมากที่สุดในหน้าฝน!
รวมฮิตโรคเด่น-เด็กเสี่ยงเป็นมากที่สุดในหน้าฝน!

เปิดอ่าน 16,169 ครั้ง
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว

เปิดอ่าน 20,787 ครั้ง
"ข้าวลืมผัว"อร่อยจนลืมผัว ข้าวชาวเขา ที่ชาวเมืองก็ควรกิน
"ข้าวลืมผัว"อร่อยจนลืมผัว ข้าวชาวเขา ที่ชาวเมืองก็ควรกิน

เปิดอ่าน 84,371 ครั้ง
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL)
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain based Learning: BBL)

เปิดอ่าน 30,390 ครั้ง
การประกันคุณภาพการศึกษา
การประกันคุณภาพการศึกษา

เปิดอ่าน 10,413 ครั้ง
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้

เปิดอ่าน 17,649 ครั้ง
มะละกอ กินเท่าไหร่ไม่เคยพอ
มะละกอ กินเท่าไหร่ไม่เคยพอ

เปิดอ่าน 16,539 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า

เปิดอ่าน 15,406 ครั้ง
รวมสถานที่เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติปี 52
รวมสถานที่เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติปี 52

เปิดอ่าน 76,354 ครั้ง
พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
เปิดอ่าน 22,643 ครั้ง
ประวัติศาสตร์จังหวัดสกลนคร
ประวัติศาสตร์จังหวัดสกลนคร
เปิดอ่าน 9,340 ครั้ง
15 นาทีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
15 นาทีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
เปิดอ่าน 17,715 ครั้ง
ผลมะเฟือง กินดี ควบคุมน้ำหนัก
ผลมะเฟือง กินดี ควบคุมน้ำหนัก
เปิดอ่าน 12,152 ครั้ง
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ