ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการใช้ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา 4 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงด

1. ชื่อเรื่อง รายงานการใช้ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201

รายวิชาฟิสิกส์ 1สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา 4 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว

2. ชื่อผู้ทำ นางปิยนุช เมธา

3. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

เมื่อพิจารณากระบวนการจัดการเรียนการสอนรหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 พบว่านักเรียนเรียนไม่ทันเนื่องจากมีกิจกรรมของโรงเรียนที่นักเรียนต้องเข้าร่วมทำกิจกรรม ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่ทัน

ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะ ศึกษาวิธีการสร้างชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่เพื่อช่วยในการสอนทั้งในและนอกห้องเรียน ประหยัดเวลาในการจัดการเรียนการสอน และตรวจสอบว่าจะสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาฟิสิกส์ ได้มากน้อยเพียงใด

4. วัตถุประสงค์ของการวิจัย

4.1 เพื่อสร้างชุดการเรียนการสอน เกี่ยวกับเรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่

4.2 เพื่อศึกษาหาประสิทธิภาพของชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว

5. วิธีดำเนินการวิจัย

5.1 ผู้มีส่วนร่วมในการวิจัย

ประกอบด้วย ผู้วิจัย นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว จำนวน 9 คน

5.2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย

5.2.1 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว 5.2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการปฏิบัติ ได้แก่ แผนการใช้ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว

5.3 ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบ

5.3.1 วิเคราะห์ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

5.3.2 สร้างชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว

5.3.3 หาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข

ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยดำเนินการตามลำดับ ดังนี้

1) นำชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว ทดสอบกับผู้เรียน แล้วนำไปวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต( ) และค่าร้อยละ

2) เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากเครื่องมือต่างๆ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงแก้ไข

6. การวิเคราะห์ข้อมูล

6.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ

นำข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพมาตรวจสอบ วิเคราะห์ ตีความ และสรุป เพื่อประเมินสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสิ่งที่ปฏิบัติมีความเหมาะสมเพียงใด มีปัญหา อุปสรรคเกิดขึ้นหรือไม่ รวมทั้งข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาวิธีการที่จะปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป แล้วรายงานผลในลักษณะการบรรยาย

6.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ

วิเคราะห์ข้อมูลของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาโลกและดาราศาสตร์ เรื่อง ระบบสุริยะ จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยนำคะแนนที่ได้จากการตรวจแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ มาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต( ) และค่าร้อยละ 75%

7. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล/ผลการวิจัย

การศึกษา ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว จำนวน 9 คน โดยทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว และวิเคราะห์ข้อมูลจากข้อสอบโดยใช้ค่าสถิต

การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ผลการใช้ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว

พบว่าก่อนใช้ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว จำนวน 9 คน มีคะแนนเฉลี่ย 3.44 คิดเป็นร้อยละ 34.44 พบว่าหลังใช้ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 84.44 ที่ตั้งไว้

8. สรุปผล

การรายงานการใช้ชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว สรุปผลการรายงานดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 หลังจากการจัดการเรียนรู้นั้นสูงกว่าก่อนเรียน และตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือผลการเรียนรู้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75.00 โดยมีค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนเท่ากับ 8.44 คิดเป็นร้อยละ 84.44 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียน เท่ากับ 3.44 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 34.44

ดังนั้นชุดการสอน เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รหัสวิชา ว31201 รายวิชาฟิสิกส์ 1 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว สร้างขึ้นได้ถูกต้องและสอดคล้องกับทฤษฎีของความสัมพันธ์ในการเคลื่อนที่ของแรงและกฎการเคลื่อนที่และมีคุณภาพด้านลักษณะทางกายภาพทั่วไป ลักษณะการใช้งานและความเหมาะสม ในการนำไปประกอบการเรียนการสอน

9. ข้อเสนอแนะ

ผลการวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการวิจัย อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะศึกษาหรือมีความสนใจที่จะนำรูปแบบการสอนแบบจำลอง ซึ่งดำเนินการโดยหลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการไปใช้ ควรพิจารณาประเด็น ดังต่อไปนี้

9.1 ข้อเสนอแนะทั่วไป

1) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องเน้นให้นักเรียนได้เป็นผู้ลงมือปฏิบัติเอง มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม เพื่อทำให้นักเรียนได้เกิดทักษะกระบวนการต่างๆ

2) ควรมีการชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจถึงบทบาทและพฤติกรรมของตนเองในการเรียนการสอนก่อนการดำเนินการ

3) ครูควรสนับสนุนและให้คำแนะนำแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายแก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนฝึกฝนการค้นคว้าหาความรู้ เป็นการค้นพบความรู้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย

4) ครูควรกำหนดเวลา และแบ่งเวลาในการจัดกิจกรรมแต่ละขั้นตอนให้เหมาะสม เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพต่อนักเรียนมากที่สุด

9. ประโยชน์ที่ได้รับ

1) ผู้วิจัยได้พัฒนาการเรียนการสอนในชั้นเรียน และได้นำไปปฏิบัติใช้จริงในการปฏิบัติงานสอน

2) ครูผู้ร่วมวิจัยได้รับความรู้เกี่ยวกับ การนำหลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการมาใช้ในการพัฒนา

การเรียนการสอน

3) ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น จากกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ด้วยรูปแบบจำลอง

4) เป็นแนวทางในการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนวิชาโลกและดาราศาสตร์ และวิชาอื่นๆ ต่อไป

โพสต์โดย นุช : [27 ก.ย. 2562 เวลา 10:44 น.]
อ่าน [3348] ไอพี : 159.192.143.49
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,918 ครั้ง
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่

เปิดอ่าน 13,405 ครั้ง
ใบหน้าที่หายไป หายไปได้ยังไง ชมคลิปเลยครับ
ใบหน้าที่หายไป หายไปได้ยังไง ชมคลิปเลยครับ

เปิดอ่าน 26,765 ครั้ง
ลักษณะวลีและประโยคพื้นฐาน
ลักษณะวลีและประโยคพื้นฐาน

เปิดอ่าน 13,448 ครั้ง
ปรับ "ฮวงจุ้ย" ด้วยทิศมงคล เสริมดวงปี 2557
ปรับ "ฮวงจุ้ย" ด้วยทิศมงคล เสริมดวงปี 2557

เปิดอ่าน 35,211 ครั้ง
ชื่นชม เด็กสระแก้ว สร้างชื่อเสียง คว้ารางวัลชนะเลิศคัดลายมือระดับประเทศ
ชื่นชม เด็กสระแก้ว สร้างชื่อเสียง คว้ารางวัลชนะเลิศคัดลายมือระดับประเทศ

เปิดอ่าน 24,433 ครั้ง
รายนามศิลปินแห่งชาติ 2559 จำนวน 12 ท่าน
รายนามศิลปินแห่งชาติ 2559 จำนวน 12 ท่าน

เปิดอ่าน 9,993 ครั้ง
6 วิธีช่วยวัยรุ่นเก็บเงิน
6 วิธีช่วยวัยรุ่นเก็บเงิน

เปิดอ่าน 50,082 ครั้ง
เอกสารประกอบการบรรยาย การอบรมคณะกรรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC สู่สถานศึกษา(26 เม.ย –3 พ.ค. 2560)
เอกสารประกอบการบรรยาย การอบรมคณะกรรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC สู่สถานศึกษา(26 เม.ย –3 พ.ค. 2560)

เปิดอ่าน 14,803 ครั้ง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง

เปิดอ่าน 4,508 ครั้ง
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 30,393 ครั้ง
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที

เปิดอ่าน 25,608 ครั้ง
โลกออนไลน์แชร์ สุดยอดคุณครู! ตรวจการบ้านลูกศิษย์ละเอียดยิบ
โลกออนไลน์แชร์ สุดยอดคุณครู! ตรวจการบ้านลูกศิษย์ละเอียดยิบ

เปิดอ่าน 27,254 ครั้ง
งูพิษกัด
งูพิษกัด

เปิดอ่าน 8,590 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : กว่าจะถึงประถมศึกษาก็สายเสียแล้ว
ตูนส์ศึกษา : กว่าจะถึงประถมศึกษาก็สายเสียแล้ว

เปิดอ่าน 14,118 ครั้ง
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี

เปิดอ่าน 45,841 ครั้ง
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย
เปิดอ่าน 13,666 ครั้ง
น้ำส้มคั้นที่คุณดื่ม...จริงหรือปลอม?
น้ำส้มคั้นที่คุณดื่ม...จริงหรือปลอม?
เปิดอ่าน 21,390 ครั้ง
การวิจัยระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางเทคโนโลยีการศึกษา
การวิจัยระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางเทคโนโลยีการศึกษา
เปิดอ่าน 11,408 ครั้ง
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
เปิดอ่าน 9,055 ครั้ง
ฝึกหายใจให้หายง่วง
ฝึกหายใจให้หายง่วง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ