บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาชุดการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับเด็กปฐมวัย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการทดลองใช้ ชุดการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับเด็กปฐมวัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุ 3-4 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลดอนทราย สังกัดเทศบาลตำบลดอนทราย ตำบลดอนทราย อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง จำนวน 23 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบประเมินพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และ 2) ชุดการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับเด็กปฐมวัย วิธีการดำเนินกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับเด็กปฐมวัย ที่นำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ได้ประสิทธิภาพเท่ากับ 83.33/83.91 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการทดลองโดยการใช้ชุดการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับเด็กปฐมวัย หลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
กิตติกรรมประกาศ
รายงานการวิจัยฉบับนี้ เป็นการวิจัยเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์เรียนรู้ เรื่อง ชุดการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ สำหรับเด็กปฐมวัย ครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี โดยความช่วยเหลือชี้แนะและแก้ไขปรับปรุงเครื่องมือในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เป็นอย่างดียิ่งจากท่านผู้อำนวยการ และคณะครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลดอนทราย ที่ได้ให้ความร่วมมือและเสียสละเวลามาช่วยตรวจสอบ พัฒนาและปรับปรุงแก้ไขการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผู้วิจัยขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ ตลอดจนเด็กชั้นอนุบาล 2 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลดอนทราย ที่ได้ให้ความร่วมมือในการทำการวิจัยด้วยดีเสมอมา
ขอขอบพระคุณผู้เชี่ยวชาญทางด้านหลักสูตร การวัดผลและประเมินผล ที่กรุณาเป็นผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้
คุณค่าและประโยชน์ของรายงานการศึกษาค้นคว้าฉบับนี้ผู้วิจัยขอขอบพระคุณบิดา มารดา ที่ได้ให้ความรักเอื้ออาทรตลอดมา และเทิดทูนแด่บูรพาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาต่างๆ จนกระทั่งผู้วิจัยสามารถศึกษาค้นคว้าจนสำเร็จ และมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานการวิจัยคว้าฉบับนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับครูผู้สอน
ในระดับปฐมวัย ที่อาจจะนำไปเป็นแนวทางการสร้างและพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้มีคุณภาพตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรต่อไป
นฤวรรณ ณสุยสกุล