|
|
กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษาพิเศษสำหรับเด็กพิเศษในประเทศไทย ให้เด็กได้รับการศึกษาตามสิทธิมนุษยชนว่าด้วยสิทธิที่จะได้รับการศึกษาตามควรแก่อัตภาพ มีความรู้ ความสามารถที่จะประกอบอาชีพได้ เพื่อมิให้เป็นภาระแก่สังคม สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมปกติอย่างมีความสุขและมีความรับผิดชอบในฐานะพลเมืองดีของประเทศ ซึ่งตรงกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 มาตรา 49 บัญญัติไว้ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปี ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึง และมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ต้องได้รับสิทธิตามวรรคหนึ่ง และการสนับสนุนจากรัฐเพื่อให้ได้รับการศึกษาโดยทัดเทียมกันกับบุคคลอื่น และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545 ในมาตรา 10 การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพ หรือบุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้หรือไม่มีผู้ดูแลหรือด้อยโอกาส ต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิและโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการในวรรคสอง ให้จัดตั้งแต่แรกเกิดหรือตั้งแต่ที่พบความพิการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ ต้องจัดด้วยรูปแบบที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความสามารถของบุคคลนั้น
เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้หรือ เด็ก แอลดี (Learnning Disabilities) เป็นเด็กกลุ่มที่ถูกจัดไว้ในความพิการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พุทธศักราช 2550 เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ ส่วนใหญ่พบมากในเด็กระดับประถมศึกษา เด็กในกลุ่มนี้เป็นเด็กที่มีปัญหาด้านการอ่าน การเขียน การพูด การฟัง การคิดหรือการคำนวณ ถ้าหากว่าครูผู้สอนไม่มีความเข้าใจลักษณะและธรรมชาติของเด็กเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อการเรียน ทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับสติปัญญาของเด็กทั้งที่เด็กมีสติปัญญาที่ดี ซึ่งเป็นผลทำให้เด็กขาดความเชื่อมั่นในการนับถือตนเอง มีปัญหาในเรื่องการวางแผนทางการศึกษา อาชีพ การใช้ชีวิตประจำวันตลอดจนความสัมพันธ์ต่อครอบครัว และความสัมพันธ์ทางสังคมต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูและผู้ปกครองจะต้องเข้าใจและแสวงหาวิธีในการจัด กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาเด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ให้สามารถเรียนร่วมกับเด็กปกติได้อย่างมีความสุข (สาวิตรี วุฒิสาร, 2554)
หนังสือเล่มเล็ก คือ สื่อประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้แต่งได้ เขียน เป็นเรื่องราวจากจินตนาการ คิด วิเคราะห์ มวลประสบการณ์ที่ได้รับจาก การฟัง การดู หรือการอ่าน แล้วจัดทำเป็นรูปเล่มหนังสือที่มีขนาดกะทัดรัด (โดยทั่วไปนิยมจัดทำรูปเล่มขนาด A4 พับครึ่ง) โดยมีความเหมาะสมของเนื้อหา ภาษาที่ใช้ ขนาดตัวอักษร ภาพประกอบและความสวยงามน่าอ่าน หนังสือเล่มเล็กเป็นสื่อแห่งการฝึกทักษะกระบวนการคิดเป็นนวัตกรรมที่นำไปสู่ การเรียนรู้เหตุการณ์ปัจจุบัน (Present future oriented), การสร้างจริยธรรม (Environmental ethies), การบูรณาการเนื้อหาการเรียน (System approach), การเรียนรู้ในเชิงระบบ (Interdiseiplinary approach) และสามารถบูรณาการทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อนำเสนอเนื้อหาตามกรอบของสาระการเรียนรู้ จัดทำเพื่อนำเสนอความรู้เพิ่มเติมส่งเสริมการอ่าน เพื่อความเพลิดเพลิน ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ก่อให้เกิดจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค (ไพฑูรย์ ศรีสุขา, 2558)
โรงเรียนสุรพินท์พิทยาได้ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ โดยได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเด็กพิเศษเรียนรวมเพื่อเติมเต็มศักยภาพการเรียนรู้ของนักเรียนนอกเหนือจากการเรียนรู้ในห้องเรียน ท้งนี้เพื่อให้นักเรียนที่มีความสามารถได้มีโอกาสแสดงออกตามศักยภาพของตนเอง โดยทางโรงเรียนได้ดำเนินการจัดกิจกรรมทางวิชาการที่หลากหลายเพื่อพัฒนานักเรียนให้เต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคลในการจัดกิจกรรมต่างๆนั้นจะให้มีประสิทธิภาพส่วนหนึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ทางโรงเรียนจึงได้จัดโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับนักเรียนพิเศษเรียนรวมขึ้นมาเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเด็กพิเศษเรียนรวมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้หนังสือเล่มเล็กจะช่วยพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้
|
โพสต์โดย รุ่งนภา กมลภพ : [5 ก.ย. 2562 เวลา 17:48 น.] อ่าน [5159] ไอพี : 122.155.47.208
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,768 ครั้ง
| เปิดอ่าน 47,002 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,677 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,220 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,377 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,079 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,239 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,821 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,643 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,698 ครั้ง
| เปิดอ่าน 79,086 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,680 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,497 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,796 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,653 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 57,708 ครั้ง
| เปิดอ่าน 269,143 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,099 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,418 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,065 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|