|
|
ผู้วิจัย นางพวงอ้อย ไชยดี
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล 1 สุขวิทยากรตั้งตรงจิตร 15
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทราวงมหาไทย
พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารมีมากมายและหลากหลาย มีความเหมาะสมและมีประสิทธภาพสำหรับการจัดการเรียนการสอนภาษาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ พื้นฐานความรู้ความสามารถ เป้าหมาย แรงจูงใจของผู้เรียนและผู้สอน รวมทั้งสื่อการสอนและสภาพแวดล้อมของการเรียนการสอน วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้ 1) เพื่อประเมินทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อศึกษาความต้องการของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 3) สร้างและพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 วิธี ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 4) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการสอนโดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 วิธี และ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่อรูปแบบการสอนโดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 วิธี การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ 1) ประเมินทักษะและความต้องการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียน 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารโดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 วิธี และ 3) ทดลองใช้และประเมินทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 วิธี ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ประชากรเป้าหมายสำหรับระยะที่ 1 เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 1 สุขวิทยากรตั้งตรงจิตร 15 สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร 5 ห้อง จำนวน 226 คน ประชากรเป้าหมายระยะที่ 2 เป็นผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน และกลุ่มตัวอย่างระยะที่ 3 เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนเทศบาล 1 สุขวิทยากรตั้งตรงจิตร 15 สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร สุ่มกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ประกอบกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน แบบทดสอบ แบบประเมินตนเอง และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ความเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และะ T-test (Independent Samples)
ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในภาพรวม โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อย (X = 1.80, S.D. = 0.03) และนักเรียนมีความต้องการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (X = 3.62, S.D. = 0.42) 2) รูปแบบการสอนภาษาสำหรับพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 รูปแบบ มีประสิธิภาพตามเกณฑ์ 82.33/83.45 3) ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารโดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 รูปแบบ สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และ 4) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจ ต่อรูปแบบการสอนโดยการบูรณาการแนวคิดของการสอนภาษา 2 รูปแบบ โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (X = 4.53, S.D. = 0.48)
ABSTRACT
The various English teaching methodologies employed for teaching communicative English are appropriate and efficient for teaching English based on many factors such as previous knowledge about English, teaching methodologies, motivation, attitude and goal of the students and teachers, including teaching materials and teaching and learning environment. The purposes of the research were 1) to assess English communicative skills of 8th grade students at Sukhawittayakorn 1st Municipal School, 2) to survey need of the students for improving English communicative skills, 3) to design and develop an instructional model for improving English communicative skills for 8th grade students by integrating two concept-centered models based on the 80/80 standardized criteria, 4) to compare English communicative skills of the students before and after using the two-concept-centered instructional model, and 5) to study the satisfaction of the students with the instructional model. The research methodology was divided into 3 phases: 1) assessing English communicative skills and surveying needs of the students for improving English communicative skills, 2) designing and developing an instructional model for improving English communicative skills by integrating two concept-centered instructional models, and 3) implementing and assessing English communicative skills of the students. The target population of the first phase was two hundred and twenty six 8th grade students at Sukhawittayakorn 1st Municipal School, Yasothon Municipality Department. The target population of the second phase was five experts in English, curriculum and instruction and educational evaluation. The sample subjects of the third phase were forty eight 8th grade students at Sukhawittayakorn 1st Municipal School. They were selected by cluster random sampling. The research instrument was six lesson plans, a test of English communitive skills, a self-assessment form and two sets of a questionnaire. The statistics used were percentage, mean, standard deviation and T-test (Independent Samples). The research results showed that the average English communicative skill of the students was at a moderate level (X = 1.80, S.D. = 0.03). The overall need of the students for improving English communicative skills was at a high level (X = 3.62, S.D. = 0.42). The findings indicated that the efficiency of the instructional model for improving English communicative skills by integrating two concept-centered instructional models was 82.33/83.45. The results indicated that the average post-test score of the students for English communicative skills after using the instructional model was significantly higher than that before using the model at the .05 level. Lastly, the findings showed that the overall satisfaction of the students with the instructional model was at a high level (X = 4.53, S.D. = 0.48).
|
โพสต์โดย Sugar-cane : [3 ก.ย. 2562 เวลา 16:48 น.] อ่าน [4925] ไอพี : 134.196.5.246
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 23,340 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,253 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,964 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,291 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,340 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,324 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,197 ครั้ง
| เปิดอ่าน 107,929 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,324 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,103 ครั้ง
| เปิดอ่าน 56,724 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,044 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,608 ครั้ง
| เปิดอ่าน 552,662 ครั้ง
| เปิดอ่าน 89,983 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 1,421 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,653 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,698 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,901 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,975 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|