ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
หัวข้องานวิจัย การสร้างและพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

หัวข้องานวิจัย การสร้างและพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า”

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นายศักดิ์สิทธิ์ เปรมกมล

หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล 5 (พหลโยธินรามินทรภักดี) อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

ปีที่ทำวิจัย 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องการสร้างและพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคม ก้มหน้า” ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้ชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” มัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” มัธยมศึกษาปีที่ 1 สำหรับประชากร และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 1 คน ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานวิจัยและการจัดทำนวัตกรรมทางการศึกษา จำนวน 5 คน และนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเทศบาล 5 (พหลโยธินรามินทรภักดี) ที่กำลังศึกษาภาคเรียน ที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้อง จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ 1.1) แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็น ด้านเนื้อหาในการพัฒนา ชุดการเรียนรู้ของผู้บริหารโรงเรียน ครู และผู้เชี่ยวชาญ 1.2 ) แบบสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับความต้องการ ในการพัฒนาชุดการเรียนรู้ 2) เครื่องมือในการประเมินผลชุดการเรียนรู้ ได้แก่ 2.1 ) แบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 2.3 ) แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ 2.2) แบบสอบถาม ความคิดเห็นของนักเรียน ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ (%) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ความคิดเห็นด้านเนื้อหาสาระที่เหาะสมเกี่ยวกับการพัฒนาชุดการเรียนรู้ โดยภาพรวมพบว่า ควรเป็นเนื้อหาตามหลักวิชาการที่มีประโยชน์ต่อผู้เรียน และครูผู้สอน สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์อย่างมาก โดยเน้นเนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับชั้น สำนวนภาษาที่ใช้เขียน ควรเป็นลักษณะที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายสื่อความหมายโดยตรงแก่ผู้อ่าน โดยไม่ต้องตีความ และเขียนเนื้อหาให้ละเอียดครอบคลุมจุดประสงค์ที่กำหนดในแต่ละเรื่อง ด้านรูปเล่มควรให้ใช้ภาพการ์ตูนสวยงามประกอบให้น่าอ่าน มีความแข็งแรง คงทน และสะดวกแก่การนำไปใช้ควรใช้เป็นสื่อประกอบตามแผน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผล ควรมีทั้งแบบทดสอบ และแบบสังเกตพฤติกรรมเนื้อหาควรสืบค้นข้อมูลทางวิชาการให้ครบถ้วน มีแหล่งอ้างอิงเพื่อให้นักเรียนสามารถไปสืบค้นเพิ่มเติมได้ ควรจัดการเรียนรู้ทั้งในเวลาเรียนปกติ และให้นักเรียนศึกษานอกเวลาเรียนด้านความคิดเห็นของนักเรียน พบว่า นักเรียนทุกคนรู้จักและเคยได้ยินคำว่า “สังคมก้มหน้า” มาบ้างแล้ว และส่วนใหญ่ยังไม่เคยศึกษาเนื้อหาเพิ่มเติม ต้องการเรียนรู้สาระการเรียนรู้หน้าที่พลเมืองเพื่อนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ต้องการเรียนรู้เนื้อหาที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงโดยต้องการเรียนรู้อย่างละเอียด ควรจัดการเรียนรู้แบบกลุ่ม และต้องการวัดผลโดยใช้แบบทดสอบ การตอบคำถามปากเปล่า และสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม

2. ผลการพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า โครงร่างของชุดการเรียนรู้เป็นลักษณะการจัดทำชุดการเรียนรู้โดยยึดหลักเนื้อหาถูกต้องตามหลักวิชาการ คือ เนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์ เนื้อหาถูกต้อง เนื้อหายากง่ายพอเหมาะ เนื้อหาสั้นยาวพอเหมาะและเนื้อหา ประกอบด้วยตัวอย่างที่เหมาะสม ด้านรูปเล่มแยกเนื้อหาชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ออกเป็น 12 เล่ม ซึ่งผลการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55 S.D.=0.32) และเมื่อนำชุดการเรียนรู้ไปหาประสิทธิภาพรายบุคคล แบบกลุ่มเล็ก และแบบภาคสนามได้ประสิทธิภาพ (E_1/E_2) เท่ากับ 61.11/62.50, 70.37/71.94 และ 84.50/82.67 ตามลำดับ

3. ผลการทดลองใช้ชุดการเรียนรู้ พบว่า ชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” มีประสิทธิภาพ ของกระบวนการ/ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E_1/E_2) เท่ากับ 85.41/85.83 สรุปได้ว่า ชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” มัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด

4. การประเมินผลและปรับปรุงชุดการเรียนรู้ หลังจากนำชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคมก้มหน้า” ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ไปทดลองใช้ และได้ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจอยู่ในเกณฑ์อยู่ในเกณฑ์ดีมากร้อยละ 73.33 อยู่ในเกณฑ์ดีร้อยละ 26.67 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก และความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนรู้ เรื่อง “สังคม ก้มหน้า” ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับประเด็นคำถามที่ถามในเชิงบวก

โพสต์โดย ครูแท่ง : [3 ก.ย. 2562 เวลา 15:59 น.]
อ่าน [4109] ไอพี : 110.78.152.171
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 27,185 ครั้ง
วรรณคดีมรดก
วรรณคดีมรดก

เปิดอ่าน 32,114 ครั้ง
ประโยชน์ของ e-Learning
ประโยชน์ของ e-Learning

เปิดอ่าน 51,433 ครั้ง
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลา
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลา

เปิดอ่าน 16,080 ครั้ง
ชาผลไม้...บำรุงร่างกาย สูตรทำเองได้...ง่ายๆ
ชาผลไม้...บำรุงร่างกาย สูตรทำเองได้...ง่ายๆ

เปิดอ่าน 88,933 ครั้ง
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ

เปิดอ่าน 9,023 ครั้ง
พัฒนาไปไกล! อังกฤษตั้งทีมวิจัยศึกษา 5G แล้ว
พัฒนาไปไกล! อังกฤษตั้งทีมวิจัยศึกษา 5G แล้ว

เปิดอ่าน 1,077 ครั้ง
ข้าวฮาง-ข้าวฮางงอก...ข้าวเพื่อสุขภาพ ภูมิปัญญาชาวอีสาน
ข้าวฮาง-ข้าวฮางงอก...ข้าวเพื่อสุขภาพ ภูมิปัญญาชาวอีสาน

เปิดอ่าน 14,122 ครั้ง
อวัยวะภายนอกและการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
อวัยวะภายนอกและการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

เปิดอ่าน 33,330 ครั้ง
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?

เปิดอ่าน 10,669 ครั้ง
ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009
ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009

เปิดอ่าน 12,260 ครั้ง
กระทรวงวัฒนธรรม เปิดดาวน์โหลดภาพหาชมยากของในหลวง กว่า 30,000 ภาพ
กระทรวงวัฒนธรรม เปิดดาวน์โหลดภาพหาชมยากของในหลวง กว่า 30,000 ภาพ

เปิดอ่าน 13,993 ครั้ง
อย่าละเลยอาการไหล่ติด
อย่าละเลยอาการไหล่ติด

เปิดอ่าน 33,578 ครั้ง
ปลาหมอไทยในบ่อเลี้ยงไม่ยาก ราคาดี
ปลาหมอไทยในบ่อเลี้ยงไม่ยาก ราคาดี

เปิดอ่าน 11,918 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)

เปิดอ่าน 20,209 ครั้ง
ที่มาของคำว่า "บางกะปิ"
ที่มาของคำว่า "บางกะปิ"

เปิดอ่าน 11,179 ครั้ง
"ร้ายยิ่งขึ้น" มันมาแล้ว "ภัยธรรมชาติ" เรียงแถว "ถล่มไทย!"
"ร้ายยิ่งขึ้น" มันมาแล้ว "ภัยธรรมชาติ" เรียงแถว "ถล่มไทย!"
เปิดอ่าน 10,343 ครั้ง
กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ
กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ
เปิดอ่าน 18,642 ครั้ง
การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา
การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา
เปิดอ่าน 13,403 ครั้ง
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?
เปิดอ่าน 1,824 ครั้ง
วิธีขอใบกำกับภาษี 7-Eleven เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่าน EASY E-Receipt
วิธีขอใบกำกับภาษี 7-Eleven เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่าน EASY E-Receipt

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ