ชื่อเรื่อง รูปแบบการสอนวิชาประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้ศึกษา นายจิตตะ ระกิติ
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพการคิดอย่างมีวิจารณญาณต่อการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนวิชาประวัติศาสตร์ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนวิชาประวัติศาสตร์ และ 4) เพื่อปรับปรุงรูปแบบการสอนวิชาประวัติศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/6 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จำนวน 1 ห้องเรียน มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 43 คน โดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน เวลา 18 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และแบบประเมินความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ จำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล
สวนสนุก เทศบาลนครขอนแก่นโดยภาพรวมอยู่ระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.23
2. องค์ประกอบของรูปแบบการสอน มีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการคือ หลักการ วัตถุประสงค์
กระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดผลและประเมินผล
3. การทดลองใช้รูปแบบปรากฏว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณอยู่ระดับปานกลางมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.23
4. รูปแบบการสอนวิชาประวัติศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรียกว่า HSCEP Model