ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C)

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียน

ในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา

(STEAM Education) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning)

ผู้วิจัย นายอัครเจตน์ สีหะวงษ์

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา

สถานศึกษา โรงเรียนกันทรารมณ์ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ

สถานที่วิจัย โรงเรียนบึงมะลูวิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28

ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาในการจัดกิจกรรม

ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ การเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) 2) เพื่อสร้างรูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) โดยใช้เทคนิคการประเมินแบบ CIPPIEST Model ตามแนวคิดของ Stufflebeam and Shinkfield (2007) ประกอบด้วยการประเมินใน 8 ด้าน คือ ด้านสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ด้านผลผลิต (Product Evaluation) ด้านผลกระทบ (Impact Evaluation) ด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) ด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation) และด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนบึงมะลู ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดสำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 169 คน ที่ร่วมกิจกรรมลดเวลาเรียน

เพิ่มเวลารู้ ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratify Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ รูปแบบฯ และคู่มือการจัดกิจกรรม

“ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” โรงเรียนบึงมะลูวิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 2) เครื่องมือ

ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 2.1) แบบประเมินองค์ 4 แห่งการศึกษา เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 4 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.63 - 0.85

และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 2.2) แบบประเมินทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C)

เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 24 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.65 - 0.89 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 2.3) แบบประเมินประสิทธิผลของรูปแบบฯ

เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 65 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.52 - 0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.84 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1) สภาพปัจจุบันและปัญหาในการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” และการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) พบว่า ครูมีความพร้อม

และดำเนินการจัดกิจกรรมตามคู่มือ แต่ยังไม่มีความชัดเจนด้านความรู้ ทักษะ และแรงจูงใจในการจัด

กิจกรรม เท่าที่ควร เนื่องจากยังไม่มีรูปแบบ วิธีการ เครื่องมือ ที่ใช้ในการเสริมสร้าง และการประเมินทักษะ นักเรียนยังไม่เห็นความสำคัญในการปรับตัวเข้ากับสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขาดความกระตือรือร้น ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม และการนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

2) ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด

( = 4.53, S.D.= 0.63) และผลการประเมินความเหมาะสมของคู่มือการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน

เพิ่มเวลารู้” โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.66, S.D.= 0.54)

3) ผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H) และทักษะผู้เรียน

ในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM)

โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) ปรากฏดังนี้

3.1) ผลการประเมินทักษะองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H ) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) ในภาพรวมทั้ง 4 ด้าน อยู่ในระดับ ดีมาก ( = 4.58, S.D.= 0.46)

3.2) ผลการประเมินทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R) ทักษะในสาระวิชาหลัก

(Core Subjects–3R) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM)

โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) ในภาพรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับ ดีมาก

( 4.62, S.D.= 0.66)

3.3) ผลการประเมินทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (8C) ทักษะการเรียนรู้

และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills – 8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”

ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning)

ในภาพรวมทั้ง 8 ด้าน อยู่ในระดับ ดีมาก ( = 4.53, S.D.= 0.44)

4) ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเสริมสร้างองค์ 4 แห่งการศึกษา (4H)

และทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R8C) ในกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL: Project Based Learning) ในภาพรวมทั้ง 8 ด้าน อยู่ในระดับ มาก ( = 4.48, S.D. = 0.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.52, S.D. = 0.56) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) อยู่ในระดับ มาก ( = 4.38, S.D. = 0.51) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation)

อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.56, S.D. = 0.66) ด้านผลผลิต (Product Evaluation) อยู่ในระดับ

มากที่สุด ( = 4.68, S.D. = 0.72) ด้านผลกระทบ (Impact Evaluation) อยู่ในระดับ มากที่สุด

( = 4.53, S.D. = 0.55) ด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) อยู่ในระดับ มาก

( = 4.48, S.D. = 0.42) ด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation) อยู่ในระดับ มาก

( = 4.42, S.D. = 0.38) และด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation)

อยู่ในระดับ มาก ( = 4.31, S.D. = 0.44)

โพสต์โดย cheva : [3 ก.ย. 2562 เวลา 12:03 น.]
อ่าน [6237] ไอพี : 223.24.150.104
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,803 ครั้ง
ประวัติกระดาษห่อลูกอมฮาร์ตบีท
ประวัติกระดาษห่อลูกอมฮาร์ตบีท

เปิดอ่าน 12,035 ครั้ง
ฉลาดคิด-เตือนฝนผ่านมือถือ
ฉลาดคิด-เตือนฝนผ่านมือถือ

เปิดอ่าน 10,097 ครั้ง
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้

เปิดอ่าน 1,317,979 ครั้ง
อริยสัจ 4
อริยสัจ 4

เปิดอ่าน 8,173 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา...เพื่ออะไร ?
ปฏิรูปการศึกษา...เพื่ออะไร ?

เปิดอ่าน 18,521 ครั้ง
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน

เปิดอ่าน 28,705 ครั้ง
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559

เปิดอ่าน 13,527 ครั้ง
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน

เปิดอ่าน 7,453 ครั้ง
คุณภาพผู้เรียนวัดจาก NT-ONET เส้นทางที่ลางเลือน!
คุณภาพผู้เรียนวัดจาก NT-ONET เส้นทางที่ลางเลือน!

เปิดอ่าน 18,765 ครั้ง
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่

เปิดอ่าน 12,962 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 12,303 ครั้ง
คู่มือพัฒนาตนเองผ่านระบบออนไลน์และการประชุมปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วย สู่การเป็นครูมืออาชีพ
คู่มือพัฒนาตนเองผ่านระบบออนไลน์และการประชุมปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วย สู่การเป็นครูมืออาชีพ

เปิดอ่าน 16,674 ครั้ง
หนอนไหม
หนอนไหม

เปิดอ่าน 10,325 ครั้ง
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.

เปิดอ่าน 4,071 ครั้ง
4 ประโยชน์ของอะโวคาโด กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
4 ประโยชน์ของอะโวคาโด กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

เปิดอ่าน 12,492 ครั้ง
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"
เปิดอ่าน 19,366 ครั้ง
คู่แข่ง 4.0 คือการศึกษาและคุณภาพชีวิต : โดย สุกรี เจริญสุข
คู่แข่ง 4.0 คือการศึกษาและคุณภาพชีวิต : โดย สุกรี เจริญสุข
เปิดอ่าน 8,644 ครั้ง
เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เปิดอ่าน 20,207 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
เปิดอ่าน 31,245 ครั้ง
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ