ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหา

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย (Research and Development) โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยผสมผสานวิธี (Mixed Methods Design) ด้วยการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) ร่วมกับการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) เพื่อการตอบคำถามการวิจัยให้คลอบคุลมวัตถุประสงค์ 4 ประการ ดังนี้ คือ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย และ 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการร์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัยไปใช้ การศึกษาวิจัยครั้งนี้ใช้แบบแผนการวิจัยแบบกำหนดกลุ่มควบคุม ทดสอบก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ต่อเนื่องตามกำหนด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการจัดประสบการณ์เป็นครูปฐมวัย 6 คน และเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล 1, 2 และ 3 จำนวน 30 คน ของโรงเรียนอนุบาลกันตวจระมวล ในภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t – test Dependent Samples) และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา การดำเนินการวิจัยสามารถสรุปผลการวิจัย ดังรายละเอียดต่อไปนี้

สรุปผลการวิจัย

ผลการวิจัย เรื่อง ปรากฏผลดังนี้การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐานเอกสารและข้อมูลพื้นฐานบุคคล สามารถกำหนดนิยาม องค์ประกอบและพฤติกรรมบ่งชี้ในแต่ละองคฺประกอบของทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และแนวทางการพัฒนาทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ พบว่า โดยพิจารณาระดับพฤติกรรมที่แสดงถึงความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย 5 ด้าน ดังนี้

1.1 ทักษะการค้นพบความจริง (Fact-Finding Skills) หมายถึง ระดับความสามารถในการค้นหาข้อมูลจากสถานการณ์หรือข้อเท็จจริงที่มีอยู่ในสถานการณ์ วัดได้จากระดับพฤติกรรมบอกข้อมูลจากสถานการณ์หรือข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง

1.2 ทักษะการค้นพบปัญหา (Problem-Finding Skills) หมายถึง ระดับพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความสามารถในการระบุสาเหตุของปัญหา ที่เกิดจากสถานการณ์อื่นได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล

1.3 ทักษะการค้นพบแนวคิด (Idea -Finding Skills) หมายถึง ระดับพฤติกรรมการหาแนวทางและวิธีการแก้ปัญหาที่เป้นไปได้มากที่สุด และแนวโน้มนำไปแก้ปัญหาได้จริง 1.4 ทักษะการค้นพบวิธีการแก้ปัญหา (Solution-Finding Skills) หมายถึง ความสามารถในการเสนอเกณฑ์หรือแสดงเหตุผลในการต้ดสินใจเลือกแนวทางและวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

1.5 ทักษะการสร้างสรรค์ความรู้(Creating new knowledge Skills) หมายถึง ระดับพฤติกรรมในการนำความรู้ หรือข้อมูลจากคำตอบของปัญหามาสร้างความรู้ใหม่ โดยมีการเชื่อมต่อกับสถานการณ์อื่นๆ และมีแนวโน้มในการนำไปปฏิบัติจริงได้

แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย การใช้กระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน 7 ขั้นตอนร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิครูปแบบการสืบสวนเป็นกลุ่ม (Group Investigation: GI) และใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ โดยการใช้เทคนิคการสอนที่กระตุ้นพัฒนาการหลากหลายวิธี เช่น การใช้คำถามปลายเปิด การใช้สื่อและภูมิปัญญท้องถิ่นที่คุ้นเคยใกล้ชิดกับเด็กปฐมวัย ประกอบการสำรวจ สืบค้น และทดลองตามกระบวนการเรียนแบบโครงงาน

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย ได้ผลดังนี้ กระบวนการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กปฐมวัยที่ส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัยที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประกอบด้วย ขั้นตอนรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับกระบวนการเรียนแบบร่วมมือและภูมิปัญญาท้องถิ่น จนได้ผลการค้นพบว่าเป็นวิธีการสอนที่ช่วยส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย (PCLKK) ประกอบด้วย การเรียนแบบโครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning : P ) ร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือรูปแบบการสืบสวนเป็นกลุ่ม (Cooperative Learning : C) และภูมิปัญญาท้องถิ่น (Local knowledge : LK) สำหรับเด็กปฐมวัย (Kindergarten :K) โดยมีขั้นตอนในการจัดประสบการณ์จำนวน 7 ขั้นตอนคือ

ขั้นที่ 1 ขั้นการสำรวจ หมายถึง การสังเกต การสำรวจข้อมูล และทำความเข้าในในสถานการณ์ และนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจมาวิเคราะห์

ขั้นที่ 2 ขั้นกระตุ้นคิด หมายถึง การที่ครูกระตุ้นความคิดของนักเรียนโดยการใช้คำถามที่ยั่วยุ กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดอย่างอิสระ เพื่อให้นักเรียนระบุปัญหาที่ต้องการสืบค้น

ขั้นที่ 3 สืบค้นและรวบรวมข้อมูล หมายถึง การเสาะแสวงหาข้อมุลจากแหล่งข้อมูลด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น การสัมภาษณ์ การค้นอินเทอร์เน็ต

ขั้นที่ 4 ขั้นทดลอง หมายถึง การนำข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น มาวิเคราะห์วิธีการสดลอง นำข้อมูลมาทำการทดลอง

ขั้นที่ 5 ขั้นสรุปผลการทดลอง หมายถึง การนำผลการทอลองมาสรุปผล วิเคราะห์ผล แปลผล ตามแนวทางโครงงาน โดยความร่วมมือ

ขั้นที่ 6 ขั้นอภิปรายผล หมายถึง การนำสรุปผลการทดลอง มาวิเคราะห์หาสาเหตุที่เกิดขึ้น

ขั้นที่ 7 นำเสนอผลการทดลอง หมายถึง การนำเสนอผลการทลอง กระบวนการและขั้นตอนการทำงานทั้งหมด

3. ผลการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย ให้ผลดังนี้

3.1 ผลการตรวจสอบเพื่อยืนยันความเหมาะสมของโครงร่างรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน พิจารณาได้ผลการประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60-1.00 และค่าดัชนีความสอดคล้องโดยรวม ได้ค่าเท่ากับ 0.74 ซึ่งแสดงว่ามีความเหมาะสม และความสอดคล้องที่มีค่าสูง สามารถนำไปใช้ได้

3.2 ผลการตรวจสอบเครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย 2 ประเภท ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก่ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.60-1.00 ได้ค่าเท่ากับ 0.82 เครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย มีความสอดคล้อง สามารถนำไปใช้ในการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์ได้ และเครื่องมือประเมินผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์ ประกอบด้วย แบบประเมินครูปฐมวัย ได้แก่ แบบประเมินความรู้ความเข้าใจของครูปฐมวัยเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบ ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60-1.00 ได้ค่าเท่ากับ 0.80 แบบประเมินความสามารถในการเขียนแผนการจัดประสบการณ์ของครูปฐมวัยตามรูปแบบการจัดประสบการณ์ ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60-1.00 ได้ค่าเท่ากับ 0.73 แบบประเมินความสามารถในการจัดประสบการณ์ของครูปฐมวัยตามรูปแบบการจัดประสบการณ์ ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60-1.00 ได้ค่าเท่ากับ 0.78 แบบประเมินความคิดเห็นของครูปฐมวัยที่มีต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์ ได้ค้าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.60-1.00 ได้ค่าเท่ากับ 0.88 แสดงว่าเครื่องมือประเมินครูปฐมวัยทุกแบบประเมินมีความสอดคล้อง สามารถนำไปใช้ในการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์ได้ สำหรับแบบประเมินเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย แบบสอบถามความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60-1.00 ได้ค่าเท่ากับ 0.87 แสดงว่าเครื่องมือประเมินความสามารถเด็กปฐมวัยมีความสอดคล้อง สามารถนำไปใช้ในการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์ได้

3.2 ผลการศึกษานำร่อง ประกอบด้วย ผลจากการพัฒนาครูปฐมวัย จำนวน 6 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ของโรงเรียนอนุบาลกันตวจระมวล พบว่าครูปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ( =18) ความสามารถในการเขียนแผนการจัดประสบการณ์ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับ มากทุกรายการ ( = 2.75, S.D = 0.31) มีความสามารถในการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับ มาก ( = 2.60, S.D = 0.59) และมีความคิดเห็นที่มีต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับ มาก ( = 2.77, S.D = 0.38) ซึ่งสรุปผลจากการพัฒนาครูปฐมวัยพบว่า มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์อยู่ในระดับมาก แสดงว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์ มีประสิทธิภาพและสามารถนำมาใช้ในการจัดประสบการณ์ได้ ด้านผลการประเมินเด็กปฐมวัยระหว่างศึกษานำร่อง นักเรียนอนุบาลปีที่ 1-3 ชั้นเรียนละ 10 คน รวม 30 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ของโรงเรียนอนุบาลกันตวจระมวล จังหวัดสุรินทร์ ผลการประเมินพบว่า ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์โดยรวม อนุบาล 1 อยู่ในระดับปานกลาง ( =2.21,S.D=0.51) อนุบาล 2 อยู่ในระดับ ปานกลาง ( =2.42, S.D=0.48)อนุบาล 3 อยู่ในรดับ มาก( =2.63,S.D =0.46)

4. ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้การเรียนแบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ให้ผลดังนี้

4.1 ผลการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย พบว่า เด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย สูงกว่าก่อนเรียนด้วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย อย่างมีนัยสำคัญที่สถิติ .05

4.2 ผลการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย เด็กที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย กับเด็กปฐมวัยที่ไม่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย พบว่า ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงงานผสานความร่วมมือร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเด็กปฐมวัย กับเด็กปฐมวัยที่ไม่ได้รับการจัด

โพสต์โดย นางบุญส่ง เสียงหวาน : [3 ก.ย. 2562 เวลา 07:25 น.]
อ่าน [65103] ไอพี : 1.46.71.236
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 68,757 ครั้ง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม(2560)
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม(2560)

เปิดอ่าน 22,783 ครั้ง
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู

เปิดอ่าน 31,959 ครั้ง
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อการศึกษาคุณภาพ : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย

เปิดอ่าน 26,015 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ กินเห็ดมีประโยชน์จริงหรือ?
ไขข้อข้องใจ กินเห็ดมีประโยชน์จริงหรือ?

เปิดอ่าน 12,973 ครั้ง
คู่มือหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางของงานก่อสร้างและหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญ
คู่มือหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางของงานก่อสร้างและหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญ

เปิดอ่าน 141,489 ครั้ง
หนู/ผม มาไม่ทันเทียบโอนความรู้ฯ ค่ะ/ครับ ป.บัณฑิตก็ไม่มีให้เรียน  หนู/ผม อยากเป็นครู มีวิธีไหนให้ได้ใบอนุญาตบ้างคะ/ครับ?
หนู/ผม มาไม่ทันเทียบโอนความรู้ฯ ค่ะ/ครับ ป.บัณฑิตก็ไม่มีให้เรียน หนู/ผม อยากเป็นครู มีวิธีไหนให้ได้ใบอนุญาตบ้างคะ/ครับ?

เปิดอ่าน 14,911 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2552

เปิดอ่าน 11,914 ครั้ง
คลิปรถตู้อุบลฯ รับผู้โดยสารแน่นคัน 15 ที่นั่ง ยืนอีกเป็นสิบ
คลิปรถตู้อุบลฯ รับผู้โดยสารแน่นคัน 15 ที่นั่ง ยืนอีกเป็นสิบ

เปิดอ่าน 50,304 ครั้ง
Verbs  Tenses
Verbs Tenses

เปิดอ่าน 24,718 ครั้ง
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 14,545 ครั้ง
สื่อวีดิทัศน์การพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูงสำหรับนักเรียนชั้น ม.ต้น ผ่านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
สื่อวีดิทัศน์การพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูงสำหรับนักเรียนชั้น ม.ต้น ผ่านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

เปิดอ่าน 43,740 ครั้ง
ชุดประจำชาติต่างๆ ในอาเซียน
ชุดประจำชาติต่างๆ ในอาเซียน

เปิดอ่าน 21,109 ครั้ง
เกมส์แข่งรถ
เกมส์แข่งรถ

เปิดอ่าน 9,855 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 92,578 ครั้ง
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์

เปิดอ่าน 22,927 ครั้ง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง
เปิดอ่าน 20,915 ครั้ง
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
เปิดอ่าน 17,781 ครั้ง
8 นิสัยที่ฉุดให้การทำงานของคุณย่ำอยู่กับที่
8 นิสัยที่ฉุดให้การทำงานของคุณย่ำอยู่กับที่
เปิดอ่าน 26,861 ครั้ง
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"
เปิดอ่าน 11,628 ครั้ง
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล
จับตาอนาคตทีวีไทย กับการเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิตอล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ