|
|
ชื่องานวิจัย : การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือนสิบ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย : นางสรัสวดี ปานสวัสดิ์
ปีที่วิจัย : 2561
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือนสิบ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือนสิบ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือนสิบ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) ประเมินผลความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้การจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านแหลมทราย) เทศบาลนครสงขลา จังหวัดสงขลา จำนวน 26 คน ทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 เป็นเวลา 12 ชั่วโมง แบบแผนการทดลอง คือ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) แบบประเมินผลความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence: IOC) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ KATES Model โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ KATES Model ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 การให้ความรู้ และการสร้างความตระหนัก (Knowledge and Awareness: KA) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (Teaching: T) ขั้นที่ 3 ขั้นวัดและประเมินผล (Evaluation: E) และขั้นที่ 4 ขั้นสรุป (Summarizing: S) โดยความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (KATES Model) มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในระดับมาก
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (KATES Model) ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือนสิบ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และก่อนเรียนแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ .01
3.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือนสิบ มีคะแนนเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.88 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 70 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การพิจารณาระดับความพึงพอใจ แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ KATES Model ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติตามแนวคิดของซิมพ์ซัน เพื่อส่งเสริมทักษะการประดิษฐ์งานใบตอง ชุดสารทไทย...สารทเดือนสิบ อยู่ระดับมาก
|
โพสต์โดย เล็กเล็ก : [2 ก.ย. 2562 เวลา 10:53 น.] อ่าน [5488] ไอพี : 1.0.241.7
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 266,805 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,785 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,187 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,649 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,792 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,849 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,385 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,726 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,511 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,751 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,460 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,290 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,507 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,353 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,818 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 13,705 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,981 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,728 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,731 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,950 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|