การวิจัยเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่
ผู้วิจัย : นายสหชวโรจน์ งามขำ
หน่วยงาน : โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่
ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศโดยการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง เป็นการวิจัยและพัฒนา (Resench Development) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียน ของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง 2) เพื่อออกแบบและพัฒนาการรูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง 3) เพื่อทดลองการใช้รูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง และ4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง กรอบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กำหนดขั้นตอนการวิจัยและพัฒนารูปแบบการนิเทศ ดังนี้ คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research: R1) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) : การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียน ของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา(Development: D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา (Design and Development : D and D) :รูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการนำไปใช้ (Implementation : I) : การทดลองใช้รูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียน ของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา(Development : D2)เป็นการประเมินผล (Evaluation : E) การประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียน ของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง กลุ่มตัวอย่าง ครูในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง จำนวน 17 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบวิเคราะห์แบบทดสอบที่ใช้ศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเชิงบูรณาการ 2) แบบสัมภาษณ์ ที่ใช้ศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเชิงบูรณาการ 3) แบบประเมินความรู้ ความเข้าใจ ในการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนของครู และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจ ในการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเชิงบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาการเรียนการสอนและเสริมสร้างสมรรถนะการเรียนการสอนของครูสู่ผู้เรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ การทดสอบค่าที (Dependent t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1) ครูมีความต้องการในการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง อยู่ในระดับมากที่สุด
2) รูปแบบการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง โดยมีการปฏิบัติ 5 ขั้นตอน เรียกว่า PIDRE ดังนี้ (1) การวางแผนการนิเทศ(Planning : P ) (2) การให้ความรู้ก่อนการนิเทศ (Information : I) (3) การดำเนินการนิเทศ (Doing) ประกอบด้วยการปฏิบัติงาน 2 ลักษณะ คือการปฏิบัติงานของผู้รับการนิเทศ (ครู) การปฏิบัติงานของผู้ให้การนิเทศ (ผู้บริหาร) โดยเข้าสังเกตการณ์สอนในชั้นเรียน มีการจดบันทึกพฤติกรรมการสอนอย่างย่อ ๆ (4) การสร้างเสริมกำลังใจในการนิเทศ (Reinforcing : R) ขั้นตอนของการสริมแรงของผู้บริหาร ซึ่งให้ผู้รับการนิเทศมีความมั่นใจและบังเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน มีการให้ข้อมูลย้อนกลับจากการสอน 5) ประเมินผลการนิเทศ(Evaluating : E)
3) ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง พบว่า ครูผู้รับการนิเทศมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศแบบการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวางก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ มีสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน อยู่ในระดับสูงมากและนักเรียนมีผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศแบบการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวาง แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศนักเรียนมีผลการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ
4) ครูผู้รับการนิเทศมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลร้องกวางอยู่ในระดับมากที่สุด