ชื่องานวิจัย รายงานผลการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
ผู้วิจัย นางอัญชลี เอมวัฒน์
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสังคมช่วยสร้างจิตสำนึกในการเป็นมนุษย์ มีจิตวิญญาณของผู้มีอารยะธรรมทางปัญญาและความงดงามทางจิตใจ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนตามมาตรฐานและสาระการเรียนรู้ 5 สาระ คือ สาระการอ่าน สาระการเขียน สาระการฟัง การดู และการพูด สาระหลักการใช้ภาษา สาระวรรณคดีและวรรณกรรม เพื่อให้ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้ภาษาอันเป็นเครื่องมือสื่อสารและแสวงหาความรู้ เพราะภาษาไทยเป็นสื่อในการแสวงหาความรู้จากกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ซึ่งจากทั้ง 5 สาระการเรียนรู้นั้นล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น ผู้สอนอาจจะมองเห็นว่าในบางสาระการเรียนรู้อาจจะมีความจำเป็นต้องเน้นหนักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสาระการอ่านและสาระการเขียนนับว่าเป็นทักษะที่มีความสำคัญในการสื่อสาร การอ่านเป็นกิจกรรมที่เด็กไทยให้ความสำคัญน้อยลง จึงทำให้ทักษะด้านการอ่านด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์การอ่านของเด็กไทยในปัจจุบัน จากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2548 สำรวจพบอัตราการอ่านหนังสือของเด็กไทยโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 5 เล่มต่อคน ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างอเมริกา อัตราการอ่านหนังสือโดยเฉลี่ยปีละ 50 เล่มต่อคน อาจเพราะมีสื่อเร้าอื่น ๆ ทั้งทางโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต เกมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่งรูปลักษณ์น่าสนใจ ประกอบกับเป็นสื่อใหม่ทันสมัย เป็นที่นิยมของเด็กมากกว่า อีกทั้งปฏิเสธไม่ได้ว่า เด็กไทยจำนวนมากขาดแคลนโอกาสทางการศึกษาไม่มีหนังสือดี ๆ อ่าน
จากประสบการณ์การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สาระการเรียนรู้ภาษาไทย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - 4 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ด้านทักษะการอ่าน ค่อนข้างต่ำ ซึ่งผู้เรียนอ่านออกเสียง อย่างไม่ค่อยมีความมั่นใจ อีกทั้งนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร ใช้ภาษาถิ่น(มลายู) ในการสื่อสารค่อนข้างมาก ตลอดจนผู้เรียนขาดการฝึกฝน ขาดสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสม ดังนั้น ผู้วิจัย ในฐานะ ครูผู้สอนจึงเล็งเห็นความสำคัญของการอ่าน เพราะเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญ และจำเป็นต่อผู้เรียนเป็นอย่างมาก ผู้วิจัย จึงได้แต่งหนังสืออ่านเพิ่มเติม ที่มีตัวละครวัยเดียวกับผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนได้มีความรู้สึกอยากอ่าน และอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยผู้วิจัย เลือกใช้คำศัพท์ที่พบเจอได้บ่อยครั้งในบทเรียน และเป็นคำคล้องจอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนอ่าน และคาดเดาคำต่อไปได้ง่ายขึ้น คำศัพท์ที่ใช้อยู่ในบัญชีคำพื้นฐานของระดับชั้น ทั้งนี้หนังสืออ่านเพิ่มเติมจะช่วยฝึกทักษะด้านการอ่านให้กับผู้เรียนมีความสนุกกับเนื้อเรื่องและสามารถอ่านออกเสียงได้ด้วยความมั่นใจ ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะด้านการอ่าน เพื่อเป็นบันไดในการพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ อีกต่อไป
ในงานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร สังกัดเทศบาลเมืองปัตตานี ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วิธีดำเนินการวิจัยมีขั้นตอนดังนี้ 1. หากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร สังกัดเทศบาลเมืองปัตตานี จำนวน 30 คน 2. สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีผู้เชี่ยวชาญ ในการประเมินเครื่องมือ และนำเครื่องมือไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวย่าง 3. เก็บรวบรวมข้อมูล โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนคือ ขั้นเตรียมการสอน ขั้นดำเนินการทดลองและขั้นหลังทดลอง 4. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งเป็น วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้สถิติ t-test (Dependent Samples) และวิเคราะห์แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 5. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล แบ่งเป็น สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพของเครื่องมือและสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน
การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร ปรากฏข้อมูลดังนี้ 1. ใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.43/84.29 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร มีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนด้านทักษะการอ่านและการเขียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนการจัดการเรียนรู้ที่ได้จากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 8.27 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.52 และค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังการจัดการเรียนรู้ที่ได้จากการทำแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 25.27 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.35 เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบระหว่างคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนกับคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน ผลการศึกษาพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร มีระดับความพึงพอ ใจต่อหนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง ส้มแป้นชวนเรียนภาษาไทย อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51