|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผล เชิงประจักษ์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้ 2.1 ) เปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น 2.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมบัติเชิงกลของของไหล ก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น 2.3) เปรียบเทียบความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น และ 2.4) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยกำหนดรูปแบบการทดลองแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 เทศบาลอนุสรณ์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 2 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 65 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 เทศบาลอนุสรณ์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 33 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายโดยวิธีการจับฉลากห้อง (Sample Random Sampling) คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ แบบสอบถามความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูลสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (dependent t - test) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อว่า (PACSA : Model) จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญรูปแบบการเรียนการสอนมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับทุกองค์ประกอบ รูปแบบการเรียนการสอนมี 8 องค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน หลักการตอบสนอง ระบบสังคม สิ่งสนับสนุน สาระความรู้ และสิ่งส่งเสริมการเรียนรู้ กระบวนการเรียนการสอนมี 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) เตรียมความพร้อม (Preparation : P) 2) เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ (Action learning : A) 3) สร้างความรู้และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ (Constructing Concepts and Analysis Thinking : C) 4) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Sharing : S) 5) ตรวจสอบความรู้ความเข้าใจและประยุกต์ใช้ (Assessment and Apply : A)
2) ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน พีพีซีเอสเอ พบว่า 1) การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนหลังเรียน(x̄ = 32.03 , S.D. = 3.01) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ =12.39,S.D.= 2.63) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียน (x̄ = 32.18 , S.D. = 3.48) สูงกว่าก่อนเรียน ( x̄ = 15.48 , S.D. = 2.00) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 3) ความสามารถในการสร้างองค์ความรู้หลังเรียน (x̄ = 42.18 , S.D. = 4.19) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ = 18.72 , S.D. = 2.54) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 4) นักเรียนเห็นด้วยต่อกระบวนการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนในภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.60 , S.D. = 0.17) ในรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้านโดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากที่สุดด้านประโยชน์ที่ได้รับ (x̄ = 4.76 , S.D. = 0.19) รองลงมาด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ (x̄ = 4.54, S.D. = 0.23) และด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ( x̄ = 4.49, S.D. = 0.27) ตามลำดับ
|
โพสต์โดย ครูบี : [1 ก.ย. 2562 เวลา 14:34 น.] อ่าน [3898] ไอพี : 182.232.128.174
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,712 ครั้ง
| เปิดอ่าน 103,293 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,526 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,508 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,419 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,198 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,539 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,260 ครั้ง
| เปิดอ่าน 50,669 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,610 ครั้ง
| เปิดอ่าน 88,019 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,812 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,596 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,282 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,696 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 20,762 ครั้ง
| เปิดอ่าน 54,338 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,845 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,834 ครั้ง
| เปิดอ่าน 63,086 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|