ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่อง กาพย์เห่เรือ
รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน
ผู้วิจัย นางสาวจรินทร์พร คำคอน
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านอย่างมีวิจารณญาณด้วยการอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ ท33102 รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ ท33102 รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) โดยมีแบบแผนการทดลองเป็นแบบกลุ่มเดียวสอบก่อนและสอบหลัง (One Group Pretest-Posttest Design) ดำเนินการทดลองโดยการทดสอบก่อนการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นและหาคุณภาพแล้ว เมื่อดำเนินการทดลองสอนครบ 17 แผน จำนวน 17 ชั่วโมง จึงทดสอบหลังการจัดการเรียนรู้ จากนั้นนำผลการทดลองมาเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบค่าเฉลี่ยโดยใช้การทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test dependent) การวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ใช้การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปของตารางและ ความเรียง
ผลการวิจัย พบว่า
การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน สรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.96/84.73 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ sQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเท่ากับ 0.7765
3. ความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่อง กาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R เรื่องกาพย์เห่เรือ รายวิชา ท33102 ภาษาไทยพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในภาพรวม มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด