ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา(STEM Education) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งมีชีวิต ความสามารถในการแก้ปัญหาและความพึงพ

ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา(STEM Education) ที่มีต่อ

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งมีชีวิต ความสามารถในการแก้ปัญหา

และความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย นางสาวอรวรรณ ปราบสูงเนิน ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

กระทรวงมหาดไทย

ปีที่ศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งมีชีวิต ความสามารถในการแก้ปัญหาและ ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เรื่อง สิ่งมีชีวิต ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน 3) เพื่อศึกษาคะแนนพัฒนาการ (Gain score) ของนักเรียน 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน และ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนที่ได้รับการจัด การเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา ขอบเขตของการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1 ห้อง นักเรียน 20 คน ระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินงานวิจัย คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 รวมระยะเวลา 6 สัปดาห์จำนวน 13 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เรื่อง สิ่งมีชีวิต แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สิ่งมีชีวิต แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา และแบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด สะเต็มศึกษา ผู้วิจัยเก็บรวบรวมด้วยตนเอง และวิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที (t-test dependent group) และค่าคะแนนพัฒนาการ (Gain Score)

สรุปผลการวิจัย

1. แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.07/82.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

2. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) เรื่อง สิ่งมีชีวิต มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง สิ่งมีชีวิต หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) มีคะแนนพัฒนาการร้อยละ 55.00 อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 25.00 อยู่ในระดับสูงมาก และร้อยละ 20.00 อยู่ในระดับกลาง

4. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) เรื่อง สิ่งมีชีวิต มีความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. ความพึงพอใจของนักเรียนจากการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา(STEM Education) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.42 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.18 ซึ่งอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก

โพสต์โดย ออย : [31 ส.ค. 2562 เวลา 17:20 น.]
อ่าน [3471] ไอพี : 171.4.251.191
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,079 ครั้ง
ถั่วพร้า
ถั่วพร้า

เปิดอ่าน 13,639 ครั้ง
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ

เปิดอ่าน 28,014 ครั้ง
Photosynth สังเคราะห์ภาพ3 มิติ
Photosynth สังเคราะห์ภาพ3 มิติ

เปิดอ่าน 14,223 ครั้ง
16 กันยายน วันโอโซนโลก
16 กันยายน วันโอโซนโลก

เปิดอ่าน 10,668 ครั้ง
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต

เปิดอ่าน 9,890 ครั้ง
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน

เปิดอ่าน 54,549 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 16,619 ครั้ง
วัยไหนให้ดูทีวี
วัยไหนให้ดูทีวี

เปิดอ่าน 25,709 ครั้ง
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล

เปิดอ่าน 10,192 ครั้ง
แนะนำหนังสือน่าอ่าน
แนะนำหนังสือน่าอ่าน

เปิดอ่าน 12,476 ครั้ง
พลังงานรอผลศึกษาผลกระทบเลิกขายเบนซิน 91
พลังงานรอผลศึกษาผลกระทบเลิกขายเบนซิน 91

เปิดอ่าน 28,731 ครั้ง
เป็ดแมนดาริน
เป็ดแมนดาริน

เปิดอ่าน 12,128 ครั้ง
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"

เปิดอ่าน 5,034 ครั้ง
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022

เปิดอ่าน 10,249 ครั้ง
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ

เปิดอ่าน 11,992 ครั้ง
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?
เปิดอ่าน 16,415 ครั้ง
"พลูด่าง" ไม้มงคลเสริมโชคลาภ
"พลูด่าง" ไม้มงคลเสริมโชคลาภ
เปิดอ่าน 18,719 ครั้ง
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร
เปิดอ่าน 12,129 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”
เปิดอ่าน 11,496 ครั้ง
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ