ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านค้อ)
ผู้วิจัย ธนนชัย จันล่องคำ
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านค้อ) และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านค้อ) ที่มีต่อ
การเรียนด้วยชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ที่มีการทดสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียกว่า One - Group Pretest - Posttest Design กลุ่มประชากรที่ใช้
ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านค้อ) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
จำนวน 13 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) ชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ที่มีค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.40 - 0.80 และค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.22 - 0.72 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.82 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ที่มีความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85
การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาค่าประสิทธิภาพ (E1/ E2) ค่าเฉลี่ย
ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.17/83.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านค้อ) ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพัฒนาเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 27.73
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านค้อ) ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะที่เน้นกระบวนการปฏิบัติ เรื่อง เปตองพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52 , = 0.50)