|
Advertisement
|
ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย ศศิธร ระเบียบพล
ปีที่วิจัย 2561
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ ให้มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) ระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ประเมินผลความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๓ (โศภนพิทยาคุณานุสรณ์) เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 39 คน ทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 เป็นเวลา 16 ชั่วโมง แบบแผนการทดลอง คือ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) แบบประเมินผลความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence: IOC) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ PTPES Model โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PTPES Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียม (Preparation: P) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน (Teaching: T) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึกทักษะ (Practicing: P) ขั้นที่ 4 ขั้นวัดและประเมินผล (Evaluation: E) และขั้นที่ 5 ขั้นสรุป (Summarizing: S) โดยความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (PTPES Model) มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (นาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในระดับมาก
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (PTPES Model)) ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และก่อนเรียนแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู มีคะแนนเฉลี่ยรวม ( ) เท่ากับ 3.75 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ .49 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การพิจารณาระดับความพึงพอใจ แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (PTPES Model) ร่วมกับการผสมผสานทักษะปฏิบัติเดวีส์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่อง ระบำมโนราห์โรงครู อยู่ระดับมาก
|
โพสต์โดย เล็กเล็ก : [30 ส.ค. 2562 เวลา 17:12 น.] อ่าน [64644] ไอพี : 118.173.13.88
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 9,668 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 166,909 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,235 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 769 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,867 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,358 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,843 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,477 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 43,429 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 48,596 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,950 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,719 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,043 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 38,672 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 35,694 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 12,863 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,914 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,210 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,825 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,801 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|