ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) ประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในด้าน (4.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง กำหนดการเชิงเส้น ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (4.2) เพื่อศึกษาทักษะการคิดแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (4.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร จำนวน 39 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มตัวอย่างเดียวมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (The One – Group Pretest – Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัด การเรียนรู้ 2) แบบสัมภาษณ์ครูผู้มีประสบการณ์ด้านการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อรวบรวมแนวคิดในการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอน 3) รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง กำหนดการเชิงเส้น 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง กำหนดการเชิงเส้น 6) แบบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ (%), ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( x̄), ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบ t แบบสองกลุ่มสัมพันธ์กัน (Dependent Samples t – test)

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานพบว่า นักเรียนมีความสนใจในการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากนักเรียนต้องการพัฒนาทักการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ให้สูงขึ้น และครูผู้มีประสบการณ์ด้านการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า ควรมีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิด การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับจุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 น่าจะส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียนมีทักษะการคิด การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมี 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นทำความเข้าใจปัญหา 2) ขั้นเชื่อมโยงปัญหา 3) ขั้นศึกษาค้นคว้า 4) ขั้นดำเนินการแก้ปัญหา 5) ขั้นนำเสนอและตรวจสอบ และ 6) ขั้นการสรุปและประเมินผล

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนรู้มากขึ้น และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.05/82.14

4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง กำหนดการเชิงเส้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ค่าเฉลี่ยคะแนนการวัดทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ระหว่างการใช้รูปแบบการสอนด้วยการทดลองแบบแผนการทดลองแบบ กลุ่มตัวอย่างเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (The One – Group Pretest – Posttest Design) มีแนวโน้มของพัฒนาการทักษะการคิดแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนสูงขึ้น โดยพิจารณาจากผลคะแนนจากรูปแบบการสอนจำนวน 12 ครั้ง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.61, S.D. = 0.13)

โพสต์โดย ๋JC : [30 ส.ค. 2562 เวลา 16:34 น.]
อ่าน [5333] ไอพี : 159.192.219.9
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,870 ครั้ง
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย

เปิดอ่าน 9,670 ครั้ง
เชื้อ "ดื้อยา" อันตรายใกล้ตัว
เชื้อ "ดื้อยา" อันตรายใกล้ตัว

เปิดอ่าน 19,924 ครั้ง
เรื่องของกราฟ
เรื่องของกราฟ

เปิดอ่าน 21,870 ครั้ง
ดื่มเติมภูมิกันหวัด กระดูก-หัวใจแข็งแรง
ดื่มเติมภูมิกันหวัด กระดูก-หัวใจแข็งแรง

เปิดอ่าน 12,140 ครั้ง
คำสัญญาที่ว่างเปล่า
คำสัญญาที่ว่างเปล่า

เปิดอ่าน 12,756 ครั้ง
ในอนาคตคาดว่าจะมีวิธีการประเมินเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งผอ.-รองผอ.โรงเรียน มากกว่าการสอบข้อเขียนเพียงอย่างเดียว
ในอนาคตคาดว่าจะมีวิธีการประเมินเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งผอ.-รองผอ.โรงเรียน มากกว่าการสอบข้อเขียนเพียงอย่างเดียว

เปิดอ่าน 21,122 ครั้ง
"ลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ" ส.ส.หญิงเชื้อสายไทยคนแรกเข้าสภาคองเกรส
"ลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ" ส.ส.หญิงเชื้อสายไทยคนแรกเข้าสภาคองเกรส

เปิดอ่าน 24,160 ครั้ง
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว

เปิดอ่าน 29,544 ครั้ง
เซรุ่ม
เซรุ่ม

เปิดอ่าน 31,952 ครั้ง
หลักเกณฑ์สอบบรรจุครูผู้ช่วย
หลักเกณฑ์สอบบรรจุครูผู้ช่วย

เปิดอ่าน 20,240 ครั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย

เปิดอ่าน 27,729 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : ฟริดริก เกาส์
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : ฟริดริก เกาส์

เปิดอ่าน 16,021 ครั้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง

เปิดอ่าน 30,397 ครั้ง
ดูคลิปนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจ  "ครูผู้สอนด้วยหัวใจ (From The Heart)" : หนังครู 7- Eleven
ดูคลิปนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจ "ครูผู้สอนด้วยหัวใจ (From The Heart)" : หนังครู 7- Eleven

เปิดอ่าน 14,761 ครั้ง
สารพัดวิธี เบิร์น 100 กิโลแคลอรี่ แค่ไม่ถึงชั่วโมง แบบง่ายๆ
สารพัดวิธี เบิร์น 100 กิโลแคลอรี่ แค่ไม่ถึงชั่วโมง แบบง่ายๆ

เปิดอ่าน 16,304 ครั้ง
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี
เปิดอ่าน 17,791 ครั้ง
นั่งหน้าคอมฯ นาน ๆ อาจตายได้!
นั่งหน้าคอมฯ นาน ๆ อาจตายได้!
เปิดอ่าน 45,881 ครั้ง
ADDIE Model timeline
ADDIE Model timeline
เปิดอ่าน 13,741 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา "นโยบายไปทาง..ปฏิบัติไปทาง..สุดท้ายปฏิวัติเสียของ"
ตูนส์ศึกษา "นโยบายไปทาง..ปฏิบัติไปทาง..สุดท้ายปฏิวัติเสียของ"
เปิดอ่าน 11,525 ครั้ง
ไม่มีโลกส่วนตัว ในโลกไซเบอร์ ภัยออนไลน์ที่นักท่องเน็ตควรระวัง
ไม่มีโลกส่วนตัว ในโลกไซเบอร์ ภัยออนไลน์ที่นักท่องเน็ตควรระวัง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ