ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริม ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

บทคัดย่อ

การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายคือ 1) เพื่อสร้างและหาดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด สะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด สะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบการวิจัยและพัฒนา มี 2 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด สะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ดำเนินการสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาซึ่งใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เป็นหลักแล้วบูรณาการการใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นหาข้อมูลมาออกแบบหรือจำลอง การใช้หลักการวิศวกรรมในการออกแบบการทดลองเพื่อให้ได้ชิ้นงานและ การใช้คณิตศาสตร์ในการวัดและการคำนวณหาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ โดยนำไปพิจารณาความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน และ นำไปให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 3 คน ตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหา ภาษา และเวลา หลังจากนั้นนำกิจกรรมการเรียนรู้ไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพล (ดำรงประชาสรรค์) สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง จำนวน 36 คน เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด สะเต็มศึกษา เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย กิจกรรมการเรียนรู้ 4 กิจกรรม แบบประเมินกิจกรรมการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ ค่าเฉลี่ย (X ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I)

ขั้นตอนที่ 2 การเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด สะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพล (ดำรงประชาสรรค์) สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง แบบแผนการศึกษาที่ใช้ในการทดลองคือ One-Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สถิติที่ใช้ ค่าเฉลี่ย (X ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test dependent)

ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า

1. กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เป็นหลักแล้วบูรณาการการใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นหาข้อมูลมาออกแบบหรือจำลอง การใช้หลักการวิศวกรรมในการออกแบบการทดลองเพื่อให้ได้ชิ้นงานและ การใช้คณิตศาสตร์ในการวัดและการคำนวณหาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ ผลการพิจารณาความเหมาะสมพบว่า ความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (X ̅ = 4.19, S.D.= 0.65)และมีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.5604

2. ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง โมเมนตัมและการชน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

โพสต์โดย รุ่ง : [30 ส.ค. 2562 เวลา 12:27 น.]
อ่าน [64612] ไอพี : 223.207.246.104
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 43,504 ครั้ง
มาดูซิว่า คนญี่ปุ่นฝึกเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพ มีมารยาทและระเบียบวินัยได้อย่างไร?
มาดูซิว่า คนญี่ปุ่นฝึกเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพ มีมารยาทและระเบียบวินัยได้อย่างไร?

เปิดอ่าน 16,362 ครั้ง
ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบ สุริยะ 10 ดวงที่คล้ายโลก
ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบ สุริยะ 10 ดวงที่คล้ายโลก

เปิดอ่าน 27,022 ครั้ง
ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่
ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่

เปิดอ่าน 20,507 ครั้ง
สุขภาพเป็นยังไง...ลิ้นบอกได้
สุขภาพเป็นยังไง...ลิ้นบอกได้

เปิดอ่าน 34,050 ครั้ง
ประวัติ วัน คริสต์มาส
ประวัติ วัน คริสต์มาส

เปิดอ่าน 15,437 ครั้ง
ใครต้องฉีด วัคซีนป้องกันหวัด
ใครต้องฉีด วัคซีนป้องกันหวัด

เปิดอ่าน 12,928 ครั้ง
7 วิธีกินผักแบบไม่ขาดสารอาหาร รับเทศกาลเจ
7 วิธีกินผักแบบไม่ขาดสารอาหาร รับเทศกาลเจ

เปิดอ่าน 85,728 ครั้ง
5 สายอาชีพควรเรียน เป็นที่ต้องการในอีก 5 ปี
5 สายอาชีพควรเรียน เป็นที่ต้องการในอีก 5 ปี

เปิดอ่าน 1,083 ครั้ง
ทำไมถุงกระสอบพลาสติกสาน PP จึงยังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมไทย
ทำไมถุงกระสอบพลาสติกสาน PP จึงยังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมไทย

เปิดอ่าน 9,445 ครั้ง
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา
แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา

เปิดอ่าน 85,572 ครั้ง
ประวัติโทรทัศน์ไทย
ประวัติโทรทัศน์ไทย

เปิดอ่าน 11,664 ครั้ง
นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์
นั่งให้ถูกท่า หน้าคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 15,263 ครั้ง
กินผักตามฤดู 12 เดือน
กินผักตามฤดู 12 เดือน

เปิดอ่าน 14,529 ครั้ง
20 วิธีที่คุณควรลอง ถ้าอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกของคุณไม่ทำงาน
20 วิธีที่คุณควรลอง ถ้าอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกของคุณไม่ทำงาน

เปิดอ่าน 67,796 ครั้ง
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก

เปิดอ่าน 14,625 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
เปิดอ่าน 682 ครั้ง
บ้านแถวพระราม 2 ดียังไง ? ทำไมทำเลนี้ถึงน่าจับตามอง
บ้านแถวพระราม 2 ดียังไง ? ทำไมทำเลนี้ถึงน่าจับตามอง
เปิดอ่าน 96,746 ครั้ง
รวมข้อมูลหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
รวมข้อมูลหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
เปิดอ่าน 14,817 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : คุณสมบัติของครูในศตวรรษที่ 21 คือ...
ตูนส์ศึกษา : คุณสมบัติของครูในศตวรรษที่ 21 คือ...
เปิดอ่าน 21,850 ครั้ง
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
การวัดระยะบนผิวทรงกลม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ