ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น
เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสยามนต์ บุญชิต ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างเป็น นักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เครื่องมือในการเก็บข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร
2) แบบสอบถามความคิดของครูผู้สอน 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน 4) แบบสัมภาษณ์ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่
1) รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนการสอน (แผนการจัดการเรียนรู้) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอน ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน (t-test for dependent) และการทดสอบค่าทีแบบ One Sample t-test for the mean ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอน (E1/ E2) เท่ากับ 82.34/82.47
2. ประสิทธิผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า
2.1 ความรู้ ความเข้าใจในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้
ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2.2 ความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่นของนักเรียนที่
เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 82.52 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ร้อยละ 80
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น อยู่ในระดับมาก ( = 4.19 , S.D. =0.51) เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
คำสำคัญ: รูปแบบการเรียนการสอน/การเรียนการสอนแบบซิปปา/การเขียนสารคดีท่องเที่ยว/
แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น