ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

Magic of art เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก

การนำเสนอผลงาน/วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ระดับปฐมวัย

ชื่อผลงาน Magic of Art เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก

ชื่อผู้เสนอผลงาน นางสาวอันธิกา มูลสืบ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดทัพหมัน

โรงเรียนวัดทัพหมัน ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2

๑. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ

เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่มีการพัฒนามากที่สุด คือ ช่วงอายุระหว่าง ๐ – ๖ ปี ถือว่าเป็นช่วงโอกาสทองของการเรียนรู้ถ้าเด็กได้รับการพัฒนาและได้รับการกระตุ้นด้วยวิธีการที่ถูกต้องจะช่วยเสริมสร้างให้มีความพร้อมสมบรูณ์ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ - จิตใจ สังคม และสติปัญญา ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อเล็กมีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน

ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อเล็กมีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยกล้ามเนื้อเล็กเป็นอวัยวะหนึ่งในการประกอบกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง เช่น การใส่ - ถอดกระดุม รูดซิป การแปรงฟัน ผูกเชือกรองเท้า งานศิลปะ รวมทั้งการขีดเขียน ถ้าเด็กสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมือและตาได้อย่างประสานสัมพันธ์กัน และคล่องแคล่วจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ (อธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล. ๒๕๔๖ซ ๑๑๑) การเล่นและการจัดกิจกรรมศิลปะต่างๆจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เด็กได้พัฒนาความพร้อมทางมือและตามากที่สุด เด็กจะเรียนรู้อย่างสนุกสนาน เด็กจะใช้มือในการหยิบจับวัสดุต่างๆ ทำให้เข้าใจวิธีการใช้นิ้วจับดินสอได้อย่างถูกวิธี อีกทั้งยังเป็นการวางรากฐานในการใช้มือที่ถนัดเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเขียนต่อไป ตามแนวคิดของกีเซล (ประมวญ ดิดคินสัน. 2554: 178-179; อ้างอิงมาจาก Gesell.1947) ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาพัฒนาการ กล่าวว่า ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อเล็กของเด็กสามารถแบ่งออกเป็นระยะและมีขั้นตอน พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อเล็กนั้นมีความสำคัญแก่ชีวิตเพราะเป็นรากฐานของบุคคลเมื่อเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ กล่าวคือ พฤติกรรมต่างๆ จะมีอิทธิพลมาจากสภาพความพร้อมทางร่างกาย ได้แก่ กล้ามเนื้อ ต่อมกระดูก และประสาทต่างๆ สิ่งแวดล้อมเป็นเพียงส่วนประกอบทางการเปลี่ยนแปลง กีเซล (Gesell, 1๙๔๐ : ๑๔) ได้แบ่งพัฒนาการเด็กออกเป็น 4 ด้าน ดังนี้

1.พฤติกรรมด้านการเคลื่อนไหว (Motor Behavior) เป็นความสามารถของร่างกายที่ครอบคลุมถึงการบังคับอวัยวะต่างๆ ของร่างกายและความสัมพันธ์ทางด้านการเคลื่อนไหวทั้งหมด

2.พฤติกรรมด้านการปรับตัว (Adaptive Behavior) เป็นความสามารถในการประสานงาน ระหว่างระบบการเคลื่อนไหวกับระบบความรู้สึก (Motor Sensory Coordination) เช่น ประสานงาน ระหว่างตากับมือ (Eye – Hand Coordination) ซึ่งดูได้จากความสามารถในการใช้มือของเด็ก (Manipulation) เช่น การสั่นกระดิ่ง การแกว่งกำไล ฯลฯ พฤติกรรมด้านการปรับตัวจึงสัมพันธ์กับพฤติกรรมด้านการเคลื่อนไหว

3.พฤติกรรมทางด้านภาษา (Language Behavior) เป็นพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับวิธีสื่อสาร ทุกชนิด เช่น การแสดงออกทางหน้าตา ท่าทาง การเคลื่อนไหว ความสามารถในการเปล่งเสียงและภาษาพูด การสร้างความเข้าใจในการสื่อสารกับผู้อื่น

4.พฤติกรรมทางด้านนิสัยส่วนตัวและสังคม (Personal-Social Behavior) เป็นความสามารถในการปรับตัวของเด็กระหว่างบุคคลกับบุคคล และบุคคลกับกลุ่มภายในภาวะแวดล้อม และสภาพความเป็นจริงซึ่งต้องอาศัยความเจริญของสมองและการเคลื่อนไหวประกอบกัน

กีเซล พบว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้มือหยิบจับของทารก มีขั้นพัฒนาการเริ่มจากขั้นแรก คือ การใช้มือตะปบ ขั้นต่อมาจับของด้วยนิ้วมือ 4 นิ้วติดต่อกับฝ่ามือ โดยเริ่มใช้ฝ่ามือตอนใกล้ๆ สันมือ แล้วจึงเลื่อนไปใช้กลางใจมือ จากนั้นหัวแม่มือจึงค่อยเคลื่อนมาช่วยจับ ขั้นสุดท้าย คือ การหยิบของด้วยนิ้วหัวแม่มือกับปลายนิ้ว

การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัยมีความจำเป็นที่จะต้องจัดกิจกรรม ที่เหมาะสมกับเด็ก เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดพัฒนาการอย่างเต็มศักยภาพของเด็กแต่ละคน ซึ่งกิจกรรมที่จัดควรคำนึงถึงตัวเด็กเป็นสำคัญ มุ่งพัฒนากระบวนการคิด ส่งเสริมกระตุ้นให้เด็กแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึก ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการ ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ทางศิลปะ เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง เด็กได้รู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ช่วยฝึกการแก้ปัญหา ผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้จิตใจสงบ อ่อนโยน มีสมาธิในการทำงาน (รวิพร ผาด่าน. 2557: 3)

จากการจัดประสบการณ์ในชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาล ๒ ห้อง ๑ โรงเรียนวัดทัพหมัน พบว่าเด็กส่วนใหญ่มีปัญหาทางด้านการใช้กล้ามเนื้อเล็กในการหยิบ จับ และขีดเขียน อีกทั้งการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาในด้านความคล่องแคล่ว ความยืดหยุ่น ความถูกต้อง และความสามารถในการควบคุมการประสานกันยังไม่ดีเท่าที่ควร ขาดสมาธิในการทำงาน ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้าพเจ้าจึงได้คิดหาวิธีการ ส่งเสริม พัฒนา กล้ามเนื้อเล็กของเด็กปฐมวัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ โดยใช้นวัตกรรม “Magic of Art เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก”

๒. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

๒.๑ เพื่อส่งเสริมพัฒนากล้ามเนื้อเล็กและการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา

๒.๒ เพื่อเปรียบเทียบการใช้กล้ามเนื้อเล็กของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการใช้นวัตกรรม Magic of Art เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก

๓. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขั้นตอนการดำเนินงาน

๓.๑ การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม

๓.๒ การดำเนินงานตามกิจกรรม

๔. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

๔.๑ เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล ๒ ห้อง ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ โรงเรียนวัดทัพหมัน ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี หลังใช้นวัตกรรม Magic of Art เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก พบว่าเด็กมีพัฒนาการการใช้กล้ามเนื้อเล็กที่สูงขึ้นและอยู่ในระดับดีมาก คิดเป็น ร้อยละ ๙๒.๒๓

๕. บทเรียนที่ได้รับ

ผลที่เกิดจากการนำนวัตกรรม Magic of Art เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก ไปใช้กับนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล ๒ ห้อง ๑ ส่งผลให้เด็กและครูผู้สอน ดังนี้

• ประโยชน์สำหรับผู้เรียน

1. เด็กได้รับประสบการณ์ตรงและกล้ามเนื้อเล็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตามีความคล่องแคล่วมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น

๒. เด็กได้พัฒนาทักษะการคิด และสามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองได้

๓. เด็กมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่เหมาะสมตามวัย

๔. เด็กมีความมั่นใจในการทำงาน และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

๕. เด็กมีความกระตือรือร้น มีวินัย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และมีความมุ่งมั่นในการทำงานให้สำเร็จ

๖. เด็กเกิดความภาคภูมิใจในผลงานตนเองและผู้อื่น

๗. ผู้ปกครองให้ความสำคัญในการดูแลบุตรหลานและมีส่วนร่วมในการส่งเสริม พัฒนากล้ามเนื้อเล็ก

• ประโยชน์สำหรับครู

1. ครูผู้สามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลาย

๒. ครูได้นำเทคนิควิธีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายมาพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก

การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือและสมาธิของเด็ก

๖. การเผยแพร่ผลงาน

ผู้ใช้ได้เผยแพร่ผลงานในโรงเรียนแก่ครูระดับอนุบาล ๒ และอนุบาล ๓ และเผยแพร่ผลงานไปยังกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายที่สนใจนำนวัตกรรม Magic of Art ไปใช้ในโรงเรียนทั้ง ๖ แห่ง ในจังหวัดอุทัยธานี เพื่อให้ครูนำใช้กับเด็กที่มีปัญหาทางด้านกล้ามเนื้อเล็ก การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาในด้านความคล่องแคล่ว ความยืดหยุ่น ความถูกต้อง และความสามารถในการควบคุมการประสานกันยังไม่ดีเท่าที่ควร ขาดสมาธิในการทำงาน โดยผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ในชั้นเรียน

โพสต์โดย ลี่ : [29 ส.ค. 2562 เวลา 03:31 น.]
อ่าน [5577] ไอพี : 159.192.136.63
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,343 ครั้ง
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน

เปิดอ่าน 10,286 ครั้ง
ชื่นชมลูก ช่วยพัฒนา
ชื่นชมลูก ช่วยพัฒนา

เปิดอ่าน 22,105 ครั้ง
พระสยามเทวาธิราช
พระสยามเทวาธิราช

เปิดอ่าน 31,524 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?

เปิดอ่าน 19,813 ครั้ง
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา

เปิดอ่าน 1,617 ครั้ง
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้

เปิดอ่าน 143,493 ครั้ง
สูตรลูกบิด สูตรรูบิค Rubik
สูตรลูกบิด สูตรรูบิค Rubik's Cube

เปิดอ่าน 10,634 ครั้ง
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ

เปิดอ่าน 130,445 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด

เปิดอ่าน 8,754 ครั้ง
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2

เปิดอ่าน 16,291 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก

เปิดอ่าน 64,823 ครั้ง
เพลงประจำอาเซียน (ASEAN SONG)
เพลงประจำอาเซียน (ASEAN SONG)

เปิดอ่าน 16,407 ครั้ง
อีกมุมของ "น้ำมันปลา"
อีกมุมของ "น้ำมันปลา"

เปิดอ่าน 9,446 ครั้ง
40 ปี มนุษย์เหยียบจันทร์ กับความฝันสำรวจจักรวาล
40 ปี มนุษย์เหยียบจันทร์ กับความฝันสำรวจจักรวาล

เปิดอ่าน 17,199 ครั้ง
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ

เปิดอ่าน 16,394 ครั้ง
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
เปิดอ่าน 23,419 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
เปิดอ่าน 30,954 ครั้ง
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เปิดอ่าน 11,939 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
เปิดอ่าน 96,852 ครั้ง
เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?
เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ