การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะกีฬาเซปักตะกร้อ รายวิชาพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ กีฬาเซปักตะกร้อ เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาเซปักตะกร้อ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนหนองขามวิทยา จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกทักษะ จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 14 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.21
ถึง 0.83 ค่าความยาก 0.20- 80 มีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.98 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 1.83 ถึง 9.62 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และ
t-test (dependent Samples)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะกีฬาเซปักตะกร้อ รายวิชาพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 4 เท่ากับ 86.21/84.79 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกีฬาเซปักตะกร้อ รายวิชาพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7198 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนคิดเป็นร้อยละ 71.98
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาเซปักตะกร้อ รายวิชา
พลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ กีฬาเซปักตะกร้อ รายวิชาพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก