วิจัยเรื่อง:การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการกลุ่ม
ผู้วิจัย: นางอามีเนาะ จารู ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
หน่วยงาน: โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี
ปีที่ศึกษา: 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการกลุ่ม ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการกลุ่ม เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อประเมินความคิดเห็นและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีนรสโมสร อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี จำนวน 24 คนได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยวิธีการจับสลากโดยใช้ห้องเรียนในการสุ่ม ซึ่งผู้วิจัยเป็นครูประจำวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เครื่องมือขั้นศึกษาข้อมูลพื้นฐาน จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ 1) แบบสอบถามสภาพปัจจุบันในการจัดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 27 ข้อ และ 2) แบบสอบถามความต้องการในการจัดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เครื่องมือที่ใช้ในทดลองใช้ มี 4 ชนิด ดังนี้ 1) หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา จำนวน 8 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประกอบการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน จำนวน 8 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบคู่ขนานชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.73 ทั้ง 2 ฉบับ 4) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจในการเรียน จำนวน 10 ข้อ มีค่าสัมประสิทธิแอลฟ่า เท่ากับ 0.802 และเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรูปแบบ ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นและปรับปรุงแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานประกอบภาพ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของผู้เชี่ยวชาญ และครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 24 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ สมมติฐาน โดยใช้ค่าที และค่าดัชนีประสิทธิผล
ปรากฏผลการวิจัยและพัฒนา ดังนี้
1. สภาพปัจจุบันในการจัดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ปรากฏผลดังนี้
1.1 สภาพปัจจุบันครูมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับปานกลาง
1.2 ความต้องการของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดตานีสรสโมสร อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี มีความต้องการในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหาเรื่อง การอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปรากฏผลดังนี้
2.1 ความเหมาะสมของการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2.2 ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ โดยใช้ รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คือ ปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืดหยุ่นระยะเวลาในการเรียนให้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรม และเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูผู้สอนต้องบริหารเวลาให้เหมาะสมกับการจัด การเรียนการสอนตามความยาวของเนื้อหา
2.3 ประสิทธิภาพของการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 80.42/88.47
3. ผลการทดลองใช้การอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราหรรษาจากกลอนตานีบ้านเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปรากฏผลดังนี้
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทั้งภาพรวมและรายเล่ม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับหนังสือส่งเสริมการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x̄=4.18)
4. ผลประเมินความคิดเห็นและปรับปรุงการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ โดยใช้แบบฝึก ทักษะนิทานประกอบภาพร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด