ชื่อเรื่อง : ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ เพื่อพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้ ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน : นางนาฏชนันท์ ชูจิต
ปีที่ศึกษา : 2559
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการศึกษา
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ เพื่อพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ และพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลของการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ของนักเรียนระหว่างเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อเปรียบเทียบผลของการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม ระหว่างกลุ่มนักเรียนที่ใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ กับกลุ่มนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ตามปกติ
วิธีดำเนินการศึกษา
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองรูปแบบ Randomized Pretest Posttest Group Design กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ได้มาโดยวิธี การสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ ห้องเรียนเป็นกลุ่ม (Cluster) ด้วยการจับฉลากมา 2 ห้อง แล้วจับฉลากอีกครั้งเป็นกลุ่ม ทดลองและกลุ่มควบคุม ได้ แก่ กลุ่มทดลอง (Experimental Group) ห้อง ม. 2/2 จำนวน 44 คน ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ของนักเรียน เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ กลุ่มควบคุม (Control Group) ห้อง ม. 2/1 จำนวน 43 คน ได้รับการสอนเรื่องท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำ นำใจ นาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ จำนวน 16 แผน และแบบประเมินทักษะนาฏศิลป์ เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ โดยการประเมินก่อนและหลังการใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ของนักเรียน สถิติที่ใช้ ในการวิ เคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนทักษะนาฏศิลป์ของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์ เรื่อง ท่ารำ นำใจ นาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ภายในกลุ่มทดลองโดยใช้ สถิติทดสอบที (Dependent Sample) เปรียบเทียบความแตกต่าง ของคะแนนทักษะนาฏศิลป์ ของนักเรียนระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมใช้ สถิติทดสอบที (Independent Sample)
ผลการศึกษา
1. ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ เพื่อพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ และปรับเปลี่ยนการเรียนรู้ ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง (ขุนวิเศษนุกูลกิจอุทิศ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ นักเรียนกลุ่มทดลองมีทักษะนาฏศิลป์ อยู่ในระดับดีมาก โดยรวม นักเรียนมีทักษะนาฏศิลป์ อยู่ในระดับดีมาก
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ เพื่อพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ และปรับเปลี่ยนการเรียนรู้ ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง (ขุนวิเศษนุกูลกิจอุทิศ) หลังเรียนดีกว่าก่อนการเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ เพื่อพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ และปรับเปลี่ยนการเรียนรู้ ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง (ขุนวิเศษนุกูลกิจอุทิศ) มีทักษะนาฏศิลป์ และเกิดการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการเรียนนาฏศิลป์ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ดีกว่ากลุ่มนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ ท่ารำนำใจนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
โดยสรุป นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม มีทักษะนาฏศิลป์ดีกว่า ก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าการจัดการเรียนรู้ทักษะนาฏศิลป์แบบมีส่วนร่วม สามารถพัฒนาทักษะนาฏศิลป์ ของผู้เรียนได้จริง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนนาฏศิลป์ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย มีความรู้สึกนึกคิดที่ดี ต่อตนเอง และผู้อื่น อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข