ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
เรื่อง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
นายแดนชัย วงค์เวียน
Results of Knowledge-Searching-Based Learning through Activity Kit for Science Subject: Human and Animal Physiology for Grade Eight Students
Mr. Danchai Wongwian
บทคัดย่อ
ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาทักษะการทำงานเป็นทีม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 4) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่อการเรียนโดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2/3 โรงเรียนชากังราววิทยา (อินทร์ ชุ่ม ดีสารอุปถัมภ์) อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองกำแพงเพชร ปีการศึกษา 2561 จำนวน 27 คน โดยวิธีการสุ่มแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling ) ระยะเวลาดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ แบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสังเกตทักษะการทำงานเป็นทีม และแบบสอบถามเจตคติต่อการเรียนโดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ร้อยละความก้าวหน้า (d%) และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้ค่า t-testแบบ Dependent
ผลการศึกษา
1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ที่เน้นการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 เพื่อหาประสิทธิภาพ ( ) และค่าดัชนีประสิทธิผล ( ) ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.06/86.94 ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.68
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้เรื่อง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า คะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ผลการศึกษาทักษะการทำงานเป็นทีม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ พบว่า พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะการทำงานเป็นทีม ระดับคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดี ( =4.30)
โรงเรียนชากังราววิทยา (อินทร์-ชุ่ม ดีสารอุปถัมภ์) กองการศึกษา เทศบาลเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
4. ผลการศึกษาเจตคติต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่านักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55)
คำสำคัญ : ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้, ทักษะการทำงานเป็นทีม, เจตคติเชิงวิทยาศาสตร์
Abstract
The research on results of knowledge-searching-based learning through activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students had objectives to 1) study the efficiency of the knowledge-searching-based learning through activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students comparing with the criteria at eight0/eight0, 2) compare the results of pretest and posttest of the grade eight students instructed through activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students, 3) observe the samples group working during the use of the activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students, and 4) identify the samples attitude towards the learning through the activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students.
The samples, chosen by cluster random sampling, were 27 grade eight class 3 students of Chakangrao Wittaya School (In-Chum Deesarn-ouppatham), Mueang Kamphaengphet district, Kamphaeng Phet province, under Mueang Kmphaengphet Municipality, during semester 1, academic year 2018. Research instruments were the science activity kit for knowledge-searching-based learning: human and animal physiology for grade eight students, practice tests, observation form for group working, and questionnaire for attitude evaluation. The data were analyzed using Mean, Standard Deviation and percentage, and Dependent t-test was used to test the differences of Mean.
Results
1. The study of the efficiency of the knowledge-searching-based learning through activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students to find and , the result indicated that the activity kit had 85.06/86.94 and 0.6eight respectively.
2. The comparison of the results of pretest and posttest of the grade eight students instructed through activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students, the result indicated that the posttest result was higher than the pretest one with statistical significant at 0.05.
3. The observation of the samples group working during the use of the activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students indicated that they had overall quality of group working skills at Good level ( =4.30).
4. The identification of the samples attitude towards the learning through the activity kit for science subject: human and animal physiology for grade eight students, the result indicated that they had positive attitude towards the learning in overall at the Highest level ( = 4.55).
Keywords: efficiency of the activity kit, group working skills, scientific attitude