ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลงานทางวิชาการ นางจิตรา หาญพยัคฆ์ โรงเรียนเทศบาล ๒(เมืองเก่าวิทยา) จังหวัดชัยภูมิ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3

โดยใช้นิทานคุณธรรม

ผู้วิจัย นางจิตรา หาญพยัคฆ์

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

การดำเนินงานครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โดยใช้นิทานคุณธรรม (2) เพื่อสร้างรูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โดยใช้นิทานคุณธรรม

(3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โดยใช้นิทานคุณธรรม ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการดำเนินงานในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๒ (เมืองเก่าวิทยา) ปีการศึกษา 2560 จากห้องเรียน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 19 คน กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๒ (เมืองเก่าวิทยา) ปีการศึกษา 2560 จำนวน 19 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้สอน เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ (1) แบบสอบถาม และ แบบประเมิน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์ค่าความต้องการจำเป็น (PNImodified)

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 พบว่า 1.1) สภาพปัจจุบันของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 ส่วนใหญ่สภาพครอบครัวเป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลางไปถึงค่อนข้างยากจน ครอบครัวมีรายได้ปานกลางถึงน้อย นักเรียนส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงดูโดย ปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติ ทำให้นักเรียนไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากบิดา มารดา เท่าที่ควร หรือถูกเลี้ยงแบบตามใจ หรือเลี้ยงโดยใช้เทคโนโลยี เนื่องจากผู้ปกครองต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพจึงทำให้นักเรียนค่อนข้างขาดความอบอุ่น จิตใจกระด้าง เห็นแก่ตัว ไม่ไว้ใจใคร ขาดความมั่นใจในตนเอง ไม่มีระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ พูดจาก้าวร้าว ไม่รู้จักแบ่งปัน

เห็นแก่ประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ควบคุมอารมณ์ไมได้เมื่อถูกขัดใจ 1.2) จากการศึกษาสภาพปัจจุบันคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 พบว่าโดยภาพรวมสภาพปัจจุบันคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 ทั้ง 8 ประการ คือ ด้านความขยัน ด้านความประหยัด ด้านความซื่อสัตย์ ด้านความมีวินัย ด้านความสุภาพ ด้านความสะอาด ด้านความสามัคคี และด้านความมีน้ำใจ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ในระดับปานกลาง (X-bar = 3.00 , S.D. = 0.87) ทุกด้าน

1.3) ส่วนสภาพที่พึงประสงค์นั้นโดยภาพรวมผู้ปกครองและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องการให้มีการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก หากพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 ด้านขยัน (X-bar = 4.53, S.D. = 0.68) ด้านประหยัด ( X-bar = 4.51, S.D. = 0.65) และด้านมีวินัย (X-bar = 4.57, S.D. = 0.58) ต้องการให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านซื่อสัตย์ (X-bar = 4.29, S.D. = 0.68) ด้านสุภาพ ( X-bar = 4.13, S.D. = 0.86) ด้านสะอาด (X-bar = 4.27, S.D. = 0.66) ด้านสามัคคี (X-bar = 3.84, S.D. = 0.77) และด้านมีน้ำใจ (X-bar = 4.46, S.D. = 0.59) ต้องการให้นักเรียนมีคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์อยู่ในระดับมาก เมื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นและจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้น

ปีที่ 3 พบว่า ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์เรียงลำดับตามผลการวิเคราะห์ได้ดังนี้ ลำดับที่ 1 ด้านความมีวินัย ลำดับที่ 2 ด้านการประหยัด ลำดับที่ 3 ด้านความมีน้ำใจ ลำดับที่ 4 ด้านความสะอาด ลำดับที่ 5 ด้านซื่อสัตย์ ลำดับที่ 6 ด้านความสุภาพ ลำดับที่ 7 ด้านความขยัน และลำดับที่ 8 ด้านความสามัคคี ตามลำดับ

2. การพัฒนารูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3

โดยใช้นิทานคุณธรรม พบว่า ผลการประเมินองค์ประกอบของรูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โดยใช้นิทานคุณธรรม ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีค่าร้อยละสูงกว่าร้อยละ 80 ทุกองค์ประกอบ แสดงว่าทุกองค์ประกอบมีความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและมีความถูกต้อง ส่วนผลการประเมินรูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โดยใช้นิทานคุณธรรม ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มีค่าร้อยละสูงกว่าร้อยละ 80 แสดงว่ารูปแบบมีความเหมาะสม ผู้วิจัยได้นำกระบวนการพัฒนาคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ 5 ขั้น นำมาใช้ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมการแสดงออกที่เป็นอุปนิสัยของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งแสดงออกให้ผู้อื่น

ได้เห็นอย่างเหมาะสม ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงามอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

3. การศึกษาการใช้รูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3

โดยใช้นิทานคุณธรรม พบว่า 3.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 หลังการใช้รูปแบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X-bar = 3.92, S.D. = 0.84 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า

ทุกด้านมีผลการประเมินโดยรวมอยู่ในระดับมาก และมีเพียง 2 ตัวบ่งชี้เท่านั้นที่มีผลการประเมิน

อยู่ในระดับมากที่สุด คือ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ 4 ด้านความมีวินัย ตัวบ่งชี้ที่ 4.1 ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติของห้องเรียน : X-bar = 4.61, S.D. = 0.63 และตัวบ่งชี้ที่ 4.2 ปฏิบัติตามกฏ ระเบียบของสถานศึกษา : X-bar = 4.59, S.D. = 0.77) และเมื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 ก่อนและหลังการใช้รูปแบบพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 โดยใช้นิทานคุณธรรม พบว่า ก่อนนำรูปแบบไปใช้มีผลการประเมิน

อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อนำรูปแบบไปใช้เป็นเวลา 1 ภาคเรียน ทำให้ผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 ดีขึ้นจนมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด

3.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้รูปแบบ พบว่า หลังการใช้รูปแบบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้รูปแบบพบว่านักเรียนอนุบาลชั้นปีที่ 3 มีพฤติกรรมที่เป็นบวกมากขึ้นรู้จักการแบ่งปัน มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ไม่พูดจาก้าวร้าว มีความมั่นใจในตนเองในการแสดงออกมากขึ้น ทำให้ผู้ปกครอง ครู และฝ่ายบริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย toy : [27 ส.ค. 2562 เวลา 07:45 น.]
อ่าน [2958] ไอพี : 58.11.29.50
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 68,717 ครั้ง
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต

เปิดอ่าน 18,083 ครั้ง
โจทย์เลขสิงคโปร์ป่วนเน็ต หาคำตอบกันทั้งโลก
โจทย์เลขสิงคโปร์ป่วนเน็ต หาคำตอบกันทั้งโลก

เปิดอ่าน 8,607 ครั้ง
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน

เปิดอ่าน 14,333 ครั้ง
3G มาแล้ว พร้อมหรือยัง?
3G มาแล้ว พร้อมหรือยัง?

เปิดอ่าน 17,561 ครั้ง
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป

เปิดอ่าน 65,394 ครั้ง
สูตรปริมาตรทรงกระบอก
สูตรปริมาตรทรงกระบอก

เปิดอ่าน 48,473 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players' Equipment)

เปิดอ่าน 10,297 ครั้ง
สูตรสำเร็จเพิ่มความฉลาด
สูตรสำเร็จเพิ่มความฉลาด

เปิดอ่าน 10,493 ครั้ง
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงสวยน้อยลง
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงสวยน้อยลง

เปิดอ่าน 4,076 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 56,845 ครั้ง
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 15,287 ครั้ง
กินผักผลไม้เหลืองๆ ป้องกันโรคมะเร็งได้
กินผักผลไม้เหลืองๆ ป้องกันโรคมะเร็งได้

เปิดอ่าน 16,510 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 8,720 ครั้ง
โกจิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ชะลอความแก่
โกจิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ชะลอความแก่

เปิดอ่าน 11,556 ครั้ง
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น
สาวยูเครน 19 คลั่งอนิเมะ แปลงตัวเองเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 9,804 ครั้ง
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
เปิดอ่าน 36,946 ครั้ง
ปลาสวยงาม
ปลาสวยงาม
เปิดอ่าน 11,093 ครั้ง
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค
เปิดอ่าน 55,269 ครั้ง
จิตวิทยาการเรียนรู้ภาษา
จิตวิทยาการเรียนรู้ภาษา
เปิดอ่าน 10,346 ครั้ง
"การศึกษาหันหลัง" คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สาโรจน์ มณีรัตน์
"การศึกษาหันหลัง" คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สาโรจน์ มณีรัตน์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ