|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติเรื่อง งานช่าง การงานพื้นฐานอาชีพ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งทำการวิจัยกับกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1โรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 26 คน ซึ่งแยกเป็นนักเรียนชาย จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 61.54 และนักเรียนหญิง จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 38.46 การจัดนักเรียนเข้าสู่ห้องเรียนใช้วิธีคละความสามารถ ซึ่งผู้วิจัยได้มาด้วยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ มี 6 ชนิด ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน 2) ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง จำนวน 6 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ จำนวน 40 ข้อ เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 4) แบบทดสอบย่อยแต่ละชุดฝึกทักษะปฏิบัติ ชุดละ 10 ข้อ เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 5) แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน 5 ด้าน ได้แก่ การวางแผนการปฏิบัติงาน ความมีวินัยและมุ่งมั่นในการทำงาน การทำงานเสร็จตรงเวลา ความสมบูรณ์ของงาน ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 เป็นแบบสอบบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า E1 / E2 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 และเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการทดสอบค่าที (t-test dependent samples) ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 83.01/82.31 โดยมีผลการประเมินประสิทธิภาพด้านกระบวนการ (E1) เท่ากับ 83.01 และผลการประเมินประสิทธิภาพด้านผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 82.31 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ แสดงว่านวัตกรรมการเรียนการสอนที่จัดทำขึ้นหรือพัฒนาขึ้นสามารถแก้ปัญหาและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถปรับปรุงพัฒนาการเรียนรู้ทักษะปฏิบัติงานช่างของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิผล ตรงตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ต้องการ
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาทักษะการปฏิบัติงาน วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง นักเรียนมีทักษะการปฏิบัติงานอยู่ในระดับดีมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 22.07 คิดเป็นร้อยละ 91.94 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.83
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ เรื่อง งานช่าง วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.47
ผลการวิจัยครั้งนี้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์และสมมติฐานที่กำหนดไว้ทุกประการ และสามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนวิชาการงานพื้นฐานอาชีพ 1 ในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในการนำผลการวิจัยมาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
|
โพสต์โดย ศุภวัฒน์ : [26 ส.ค. 2562 เวลา 14:50 น.] อ่าน [5398] ไอพี : 49.230.15.21
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 24,078 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,425 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,404 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,019 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,785 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,593 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,601 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,965 ครั้ง
| เปิดอ่าน 117,286 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,066 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,455 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,683 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,396 ครั้ง
| เปิดอ่าน 88,817 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,929 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 17,112 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,029 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,262 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,883 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,613 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|